xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออกจีน (ก.ย.) ร่วงผล็อยลงอีกจากพิษสงครามการค้า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รถยนต์สำหรับส่งออกที่ท่าเรือเหลียนอวิ๋นกั่ง มณฑลเจียงซู เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2019 (ภาพ รอยเตอร์ส)
รอยเตอร์ส--การส่งออกจีนตกลงอย่างรวดเร็วในเดือนก.ย. ขณะที่การนำเข้าหดตัวเป็นเดือนที่ห้า แสดงถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน ขณะที่การเจรจายุติสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจใหญ่จีนและสหรัฐฯยังไม่รู้ลูกผีลูกคน

ดัชนีเศรษฐกิจล่าสุดตอกย้ำผู้นำจีนจะต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นการขยายตัวเศรษฐกิจเพื่อต้านการชะลอตัวอย่างรุนแรงในขณะที่สงครามการค้ายังพ่นพิษใส่เศรษฐกิจมังกรที่มีขนาดใหญ่อันดับสองของโลก

สถานการณ์เจรจาสงครามการค้า ล่าสุดเมื่อวันศุกร์(11 ต.ค.)ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอร่างข้อตกลงยุติสงครามการค้าในขั้นตอนแรก และระงับ (ชั่วคราว) การขึ้นอัตราภาษีศุลกากรที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มเจ้าหน้าที่เจรจาการค้าทั้งสองฝ่ายกล่าวว่ายังมีงานอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการให้เสร็จก่อนที่จะตกลงสัญญา

ข้อพิพาทการค้าจีนและสหรัฐฯยิ่งรุนแรงขึ้นในเดือนก.ย. จากการที่วอชิงตันขึ้นอัตราภาษีศุลกากร 15 เปอร์เซ็นต์สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ากว่า 125,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ด้านปักกิ่งโต้ตอบด้วยมาตรการขึ้นภาษีการค้าเช่นกัน

ข้อมูลสถิติศุลกากรจีนเผยในวันนี้(14 ต.ค.) อัตราการขยายการส่งออกจีนในเดือนก.ย. ลดลง 3.2 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงอย่างมากที่สุดนับจากเดือนก.พ.

“ตัวเลขที่ลดลงอย่างมากนี้สะท้อนความต้องการที่ฝ่อแฟบทั่วโลกในเดือนที่แล้ว อีกทั้งแรงกดดันจากการขึ้นอัตราภาษีสหรัฐฯที่มีผลบังคับใช้ในเดือนก.ย.” การวิเคราะห์ของ Capital Economics ชี้

นักเศรษฐศาสตร์บางกลุ่มชี้ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกจีนแย่ลงอีกนี้ เนื่องจาก “การเร่งการส่งออก” (front-loading effect) ของกลุ่มผู้ประกอบการจีน ค่อยๆซาลง ทั้งนี้ในก่อนหน้ากลุ่มบริษัทจีนพากันเร่งส่งออกขนสินค้าลงเรือไปยังสหรัฐฯก่อนเส้นตายบังคับใช้อัตราภาษีการค้าใหม่ในเดือนก.ย. ซึ่งส่งผลให้การส่งออกเดือนก.ค.และส.ค.ออกมาดูดี

สำหรับการนำเข้าในเดือนก.ย.ตกลง 8.5 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่ตกลงไปแล้ว 5.6 เปอร์เซ็นต์ในเดือนส.ค. โดยถือเป็นยอดต่ำที่สุดนับจากเดือนพ.ค. นอกจากนี้กลุ่มนักวิเคราะห์ยังคาดการณ์อีกว่าตัวเลขนี้จะลดลงอีก 5.2 เปอร์เซ็นต์

อนึ่ง แม้ว่าจีนได้ระดมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าปี แต่ความต้องการ (อุปสงค์)ภายในประเทศจีนยังคงอ่อนแรงเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ตลอดจนบั่นทอนการลงทุนใหม่ๆ

ยอดเกินดุลการค้า
ยอดเกินดุลการค้าจีนเมื่อเดือนที่แล้ว อยู่ที่ 39,650 ล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับยอดเกินดุลการค้า 34,840 ล้านเหรียญสหรัฐของเมื่อเดือนส.ค. ขณะที่กลุ่มวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ฯที่ 33,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สำหรับยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯของเดือนก.ย.เท่ากับ 25,880 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยับลงจากยอด 26,960 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้การส่งออกจากจีนไปยังสหรัฐฯ ลดลง 10.7 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้าในสกุลเงินดอลลาร์ระหว่างเดือนม.ค.-ก.ย. ขณะที่การนำเข้าจากสหรัฐฯหดลง 26.4 เปอร์เซ็นต์ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว

แม้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตกลงไม่เดินหน้าการขึ้นภาษีการค้าที่จะตัดสินในวันอังคาร แต่ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ นาย โรเบิร์ต ไลท์ธิเซอร์กล่าวว่าทรัมป์ยังไม่ตัดสินใจแน่นอนเกี่ยวกับการขึ้นภาษีการค้ารอบใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนธ.ค.

กลุ่มนักวิเคราะห์เชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงอีกในไตรมาสที่สามจากระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีซึ่งได้ทุบสถิติที่ 6.2 เปอร์เซ็นต์ระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย. และแนวโน้มที่น่ากลัวก็คือมันจะดิ่งลงไปจนทะลุระดับต่ำสุดที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าไว้สำหรับการเติบโตเศรษฐกิจทั้งปีที่ 6.0-6.5 เปอร์เซ็นต์


กำลังโหลดความคิดเห็น