“ถ้าเลือกได้ จะขอโทษและลาออก” แคร์รี่ แลม เปิดใจก่อนประกาศถอนกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

กลุ่มสื่อจีน-เทศรายงาน—ผู้นำสูงสุดแห่งฮ่องกง แคร์รี่ แลม กำลังประกาศถอนกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการในบ่ายวันนี้(4 ก.ย.) ซึ่งเป็นตัวจุดชนวนการประท้วงใหญ่ทีประชาชนผู้ต่อต้านกฎหมายฯออกมาเดินขบวนนับล้านตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. จนเกิดการปะทะวุ่นวายไปทั่วดินแดนในสามเดือนมานี้

การตัดสินใจถอนกฎหมายอย่างเป็นทางการ เป็นการยอมตามหนึ่งในข้อเรียกร้อง 5 ข้อของกลุ่มผู้ประท้วง ที่ออกมาเดินขบวน 13 สัปดาห์

ห้าข้อเรียกร้องของกลุ่มประท้วง ได้แก่ 1)ถอนกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างสิ้นเชิง 2) ไม่ดำเนินคดีกับผู้ประท้วง 3) ยกเลิกการระบุว่าผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการจลาจล 4)ตั้งคณะกรรรมาธิการพิเศษไต่สวนการกระทำรุนแรงของตำรวจ 5) เริ่มกระบวนการปฏิรูปการเลือกตั้ง

แหล่งข่าวรัฐบาลเผยว่าแลมจะแถลงเหตุผลการถอนกฎหมายฯนี้ โดยเน้นว่าเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพวาระทางกฎหมาย ขณะที่สภานิติบัญญัติหรือสภาเลคโกกำลังเปิดสภาในเดือนต.ค.นี้หลังจากปิดสภาประจำฤดูร้อน
แหล่งข่าวรัฐบาลเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ก่อนหน้านี้สองวัน แลมได้กล่าวกับกลุ่มผู้นำภาคธุรกิจว่า ”เธอได้ก่อความวุ่นวายและสร้างความเสียหายอย่างไม่น่าให้อภัย” โดยการผลักดันกฎหมายฯฉบับนี้

“ถ้าเธอมีทางเลือกก็จะแถลงขอโทษและลาออกจากตำแหน่ง” จากเครื่องบันทึกเสียงที่รั่วไหลออกมา

ในการประชุมที่ปิดลับ แลมบอกว่า เธอมีหนทาง “จำกัดมาก” ที่จะแก้ไขวิกฤตปัญหาเนื่องจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้กลายเป็นปัญหาความมั่นคงแห่งชาติและประเด็นอธิปไตยสำหรับจีนท่ามกลางศึกตึงเครียดสงครามการค้าจีนและสหรัฐฯ

ทั้งนี้การประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเริ่มก่อตัวในเดือนมี.ค. แต่ขยายวงเป็นการประท้วงใหญ่ในเดือนมิ.ย. ช่วงที่สภาเลคโกจะเปิดการพิจารณาร่างกฎหมายฯนี้เป็นครั้งที่สอง กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนี้จะเปิดทางให้ส่งตัวผู้ต้องสงสัยกระทำผิดไปขึ้นศาลจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน

หลังจากมีข่าวการประกาศถอนกฎหมายฯ ก็มีกระแสเคลือบแครงสงสัย (skeptical) การประกาศถอนกฎหมายจะช่วยยุติความวุ่นวายหรือไม่ ระหว่างการประท้วงราวสามเดือนที่มีการปะทะเกือบทุกสัปดาห์ ประชาชนจำนวนมากโกรธแค้นการใช้ความรุนแรงของตำรวจ และมีผู้ชุมนุมถูกตำรวจจับกุมตัวไป 1,183 คน และข้อเรียกร้องจัดตั้งคณะกรรมาธิการพิเศษมาไต่สวนการกระทำรุนแรงของตำรวจก็เป็นข้อเรียกร้องใหญ่ข้อหนึ่ง

ฮ่องกงอดีตอาณานิคมของอังกฤษ กลับสู่การปกครองจีนปี 1997 ภายใต้สูตรการปกครอง “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ที่ให้อิสรภาพระดับสูงมากกว่าชาวแผ่นดินใหญ่ ทั้งเสรีภาพการประท้วงและระบบศาลยุติธรรมที่อิสระ ดังนั้นการผลักดันกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจึงสร้างความโกรธแค้นแก่ชาวฮ่องกงผู้ต่อต้านฯและถูกมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวของปักกิ่งที่จะแผ่อิทธิพลเบ็ดเสร็จเหนือดินแดน

“รัฐบาลจีนได้ปฏิเสธข้อเสนอของแลมที่เสนอไปเมื่อเร็วๆนี้เพื่อปลดชนวนความขัดแย้งซึ่งรวมทั้งการถอนกฎหมายฯด้วย” รอยเตอร์ส อ้างแหล่งข่าวที่รู้เรื่องนี้โดยตรงเผย

ทางด้านจีนตอบคำถามเกี่ยวกับรายงานข่าวการประกาศถอนกฎหมายฯ โดยกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า “รัฐบาลกลาง “สนับสนุน เคารพ และเข้าใจ” การตัดสินใจของแลมในการพักผลักดันกฎหมายฯ แต่ด้านโกลบอล ไทม์ส สื่อในเครือพีเพิล เดลี่ กระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประณามรายงานข่าวฯว่า “ปลอม”

หลังข่าวประกาศถอนฯเผยแพร่ออกไป ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง ปิดขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ ดัชนีอสังหาริมทรัพย์ดีดตัวขึ้นดั่งปลากระดี่ได้น้ำ