ผู้นำสูงสุดฮ่องกงแถลงกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน “ตายแล้ว”

เอเจนซีส์--ผู้นำสูงสุดแห่งฮ่องกง แคร์รี่ แลม แถลงในเช้าวันนี้(9 ก.ค.) กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน “ตายแล้ว” พร้อมกับยอมรับว่าการปฏิบัติงานของรัฐบาลกรณีผลักดันกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน “ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง”

“ดังนั้น ฉันขอกล่าวย้ำในที่นี้ ไม่มีแผนการดังกล่าวอีกแล้ว กฎหมายนั้นตายแล้ว” แลมกล่าวระหว่างแถลงในที่ประชุมข่าว โดยเป็นการเปลี่ยนถ้อยคำจากสคริปก่อนหน้าที่ระบุว่ากฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน “จะตาย” ในปี 2020

รายงานข่าวรอยเตอร์สระบุว่าการประกาศของแลมนี้ดูเป็นชัยชนะของกลุ่มต่อต้านกฎหมาย แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนในขณะนี้ว่าการแถลงนี้จะสร้างความพอใจแก่กลุ่มประท้วงต่อต้านกฎหมายฯซึ่งเรียกร้องให้แลมลาออกด้วย หรือไม่

ด้านสื่อใหญ่แห่งฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ ระบุว่า อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดแจ้งว่าทางรัฐบาลฮ่องกง “ถอน” กฎหมายฯตามที่กลุ่มประท้วงเรียกร้องหรือไม่ แม้ในการลั่นคำมั่นสัญญาในครั้งนี้ แลมยืนยันไม่จัดตั้งคณะไต่สวนระดับสูงเพื่อสะสางกรณีการปะทะระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ประท้วง

ผู้นำหญิงแห่งฮ่องกงกล่าวว่าสภาร้องเรียนต่อตำรวจอิสระ (Independent Police Complaints Council) กำลังดำเนินการไต่สวน โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเดินขบวน ทั้งผู้ประท้วง ตำรวจ สื่อ และผู้เห็นเหตุการณ์ สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีนี้ได้

ก่อนการประชุมกลุ่มที่ปรึกษาของสภาบริหารฯ แลมยืนยันว่าทางรัฐบาลไม่ได้ระบุการประท้วงเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่เกิดการปะทะรุนแรงระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ประท้วง เป็น “จลาจล”

พร้อมกันนี้แลมยอมรับว่าความไว้วางใจในรัฐบาลของสาธารณะตกอยู่ในสภาพ “เปราะบาง”

ในวันนี้(9 ก.ค.) เป็นวันครบรอบหนึ่งเดือนที่เกิดเหตุประท้วงขนาดใหญ่ของผู้ต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน ได้แก่ การประท้วงของประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนในวันที่ 9 มิ.ย. และการประท้วงกว่า 2 ล้านคนในวันที่ 16 มิ.ย.ซึ่งเป็นวันถัดจากวันที่แลมแลมประกาศพัก (โดยไม่ถอน) กฎหมายในวันที่ 15 มิ.ย.

นอกจากนี้ในวันครบรอบ 22 ปี (1 ก.ค.) ที่อังกฤษคืนอำนาจปกครองฮ่องกงให้แก่จีน ขณะที่กลุ่มผู้นำทำพิธีฉลองวาระครบรอบฯ บรรยากาศภายนอกกลับเต็มไปด้วยการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจตามจุดต่างๆ และการบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาของผู้ประท้วง ทำลายทรัพย์สินในรัฐสภา

การประท้วงครั้งล่าสุดในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มประท้วง 230,000 คน ได้ไปชุมนุมกันในแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมจิมซาจุ่ย เวสต์เกาลูน โดยมุ่งแจงเหตุผลการประท้วงให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนใหญ่ และในคืนวันเดียวกันมีการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจในเขตมงก๊ก

วิกฤตต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายขามแดนถือเป็นการท้ายทายใหญ่ที่สุดที่ปักกิ่งเคยประสบมานับตั้งแต่ได้อำนาจปกครองฮ่องกงมา 22 ปี