xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำสูงสุดฮ่องกง แครี่ ลัม ยืนยันเดินหน้ากฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนแปจีน และไม่ลาออก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง แครี่ ลัม  และนาย จอห์น ลี รัฐมนตรีความมั่นคง ในที่ประชุมข่าววันที่ 10 มิ.ย. นาง แครี่ ลัมประกาศคำมั่นว่าจะฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน แต่ยืนยันไม่ล้มกฎหมาย (ภาพ รอยเตอร์ส)
เอเจนซีส์—ผู้นำสูงสุดฮ่องกง “แครี่ ลัม” ยืนยันเดินหน้ากฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนในวันพุธนี้ และจะไม่ลาออก

ฮ่องกงค่อยๆกลับสู่ภาวะปกติในเช้าวันนี้ ตำรวจปราบจลาจลตรึงกำลังรอบอาคารรัฐสภาหลังจากเหตุตะลุมบอนระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อคืนวานนี้ (9 มิ.ย.)

ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง นาง แครี่ ลัม (Carrie Lam Cheng Yuet-ngor) แถลงเมื่อเช้านี้ (10 มิ.ย.) ประกาศคำมั่นว่าจะฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน แต่ยืนยันไม่ล้มกฎหมาย และเธอจะไม่ลาออกจากตำแหน่งด้วยความขัดแย้งในเรื่องนี้

นาง แครี่ ลัม กล่าวว่ารัฐบาลฮ่องกงยังรักษาสัญญาในการพิทักษ์สิทธิมนุษย์ชน และจะปรับปรุงการสื่อสารอธิบายเกี่ยวกับกฎหมายแก่สาธารณะ
คลื่นผู้ประท้วง กลุ่มประท้วงเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนใจกลางฮ่องกงเพื่อต่อต้านการรับรองกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน ผู้จัดการประท้วงระบุจำนวนผู้ประท้วง มากกว่า 1 ล้านคน (ภาพ รอยเตอร์ส)
จากกระแสเรียกร้องให้นางลัมลงจากเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุด เมื่อผู้สื่อข่าวถามแครี่ ลัมจะลาออกหรือไม่ นางยืนยันไม่ลาออก และว่าเธอได้ทุ่มเททุกสิ่งอย่างตั้งแต่เข้าตำแหน่งนี้เมื่อสองปีที่แล้ว และโดยเฉพาะในเวลานี้ที่ฮ่องกงเผชิญความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ก็ยิ่งต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ

นอกจากนี้แครี่ ลัม ยังกล่าวปฏิเสธอบย่างมีอารมณ์ต่อกระแสกล่าวหาที่ว่า “กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เป็นคำสั่งจากปักกิ่ง”

แครี่ ลัมชี้ว่าการเดินขบวนประท้วงอย่างมีระเบียบและสันติกัน “เป็นส่วนใหญ่”ในวันอาทิตย์นั้น ยืนยันถึงเสรีภาพและสิทธิของชาวฮ่องกงอย่างเต็มเปี่ยม และขอแสดงความเสียใจต่อการปะทะระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงในตอนเที่ยงคืนที่ผ่านมา

ในวานนี้กลุ่มประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน ได้ชุมนุมกันบริเวณอาคารรัฐสภาฮ่องกง โดยกลุ่มผู้จัดการประท้วง Civil Human Rights Front อ้างว่ามีผู้มาชุมนุมมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งมากกว่าเท่าตัวของการประท้วงกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเมื่อปี 2003 ขณะที่หน่วยตำรวจประมาณผู้ประท้วงอย่างมากสุดที่จำนวน 240,000 คน

ในเช้าวันนี้ ตำรวจได้ทำบันทึกข้อมูลส่วนตัวของผู้ประท้วงราว 300 คนที่ถูกจับมายังสถานีตำรวจว่านไจ๋ (Wan Chai)

ขณะที่หัวหน้าคณะรัฐมนตรี (chief secretary) นาย แมธทิว เซ็ง (Matthew Cheung Kin-chung) กล่าวว่าโดยส่วนใหญ่แล้วการประท้วงเป็นไปอย่างสันติ แต่ก็เสียใจที่เกิดเหจุรุนแรงจากกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงไม่กี่คน
กลุ่มสว.ฮ่องกงที่สนับสนุนประชาธิปไตยร้องตระโกนในที่ประชุมข่าวต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน และชูป้ายที่เขียนว่า “นาง แครี่ ลัม  ลงจากตำแหน่งฯ” (ภาพ รอยเตอร์ส)
รายงานข่าวของเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ เล่าเหตุการณ์การปะทะว่า ในราวเที่ยงคืนผู้ประท้วงที่สวมหน้ากากได้รุกล้ำเส้นห้ามเข้าและพยายามเข้าไปในตึกรัฐสภา กลุ่มผู้ประท้วงได้ใช้ที่กั้นเหล็กรอบๆอาคารรับมือตำรวจที่เข้ามาผลักดันกลุ่มผู้ประท้วงออกไป นอกจากนี้ยังมีการขว้างปาขวดใส่เจ้าหน้าที่ซึ่งใช้สเปรย์พริกไทยและไม้กระบองโต้ตอบ ขณะที่กลุ่มตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงบางคน ระหว่างการปะทะนี้มีเจ้าหน้าที่อย่างน้อยสามคนได้รับบาดเจ็บ

นาย แมธทิว เซ็ง ซึ่งถือเป็นผู้นำใหญ่หมายเลขสองของฮ่องกง ยืนยันว่าการผ่านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปจีนนั้นเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ

“สภานิติบัญญัติจะเปิดการประชุมพิจารณากฎหมายในวันพุธ และหวังว่าจะเป็นไปอย่างสงบ”

สำหรับกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีนนั้น ถูกต่อต้านอย่างกว้างขวางจากกลุ่มธุรกิจ นักกฎหมาย นักศึกษา กลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย และกลุ่มศาสนา

หลายสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มต่อต้านกฎหมายได้ออกมาเดินขบวนประท้วง ด้วยความวิตกกลัวว่ากฎหมายฯนี้จะลดทอนอธิปไตยด้านกฎหมายของดินแดนฮ่องกง
กลุ่มประท้วงเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนใจกลางฮ่องกงในวันที่ 9 มิ.ย.เพื่อต่อต้านการรับรองกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน (ภาพ รอยเตอร์ส)
ณะที่ผู้นำสูงสุดฮ่องกง พยายามคลายความวิตกของกลุ่มประท้วง โดยรัฐบาลได้จัดทำร่างปรับแก้กฎหมายเพิ่มเติม รวมทั้งสร้างหลักประกันสิทธิมนุษย์ชน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและยุโรปได้แถลงเตือนอย่างเป็นทางการ รวมทั้งมีการล็อบบี้จากกลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศ และกลุ่มสิทธิมนุษย์ชน ที่วิตกกลัวเช่นกันว่าการรับรองกฎหมายนี้จะบั่นทอนอำนาจกฎหมายแม่บทของฮ่องกง

สื่อชั้นนำในฮ่องกง หมิงเป้า (Mingpao) ระบุในบทบรรณาธิการว่ารัฐบาลจะต้องฟังกลุ่มประท้วงอย่างจริงจัง และการเดินหน้ารับรองกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีน จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น

ส่วนองค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) กล่าวว่ากฎหมายฯจะคุกคามสิทธิมนุษย์ชน

“หากกฎหมายฯนี้ผ่านการรับรอง จะช่วยขยายอำนาจจีนในการปราบปรามกลุ่มที่มีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาล และกลุ่มอื่นๆ เช่นเดียวกับที่จีนทำในแผ่นดินใหญ่”

ทั้งนี้อดีตเจ้าอาณานิคมอังกฤษได้ส่งมอบฮ่องกงคืนสู่จีนในปี 1997 โดยมีข้อตกลงที่เป็นหลักประกันอำนาจปกครองตัวเองและเสรีภาพต่างๆ รวมทั้งระบบกฎหมายที่แยกจากแผ่นดินใหญ่ กลุ่มการทูตและผู้นำธุรกิจหลายกลุ่มเชื่อว่าระบบกฎหมายฮ่องกงที่แยกจากจีนนั้นเป็นปราการที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดน
เหตุการณ์ปะทะระหว่างตำรวจปราบจลาจลและผู้ประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีนเมื่อคืนวันที่ 9 มิ.ย. 2019 ในภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ประท้วง(ภาพ รอยเตอร์ส)
เหตุการณ์ปะทะระหว่างตำรวจปราบจลาจลและผู้ประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีนเมื่อคืนวันที่ 9 มิ.ย. 2019 ในภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ประท้วง(ภาพ รอยเตอร์ส)
เหตุการณ์ปะทะระหว่างตำรวจปราบจลาจลและผู้ประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีนเมื่อคืนวันที่ 9 มิ.ย. 2019 ในภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้สเปรย์พริกไทยยิงใส่ผู้ประท้วง (ภาพ รอยเตอร์ส)
เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเฝ้าผู้ประท้วงที่นั่งประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีนเมื่อคืนวันที่ 10 มิ.ย. 2019 (ภาพ รอยเตอร์ส)


กำลังโหลดความคิดเห็น