เอเจนซีส์—ผู้นำสูงสุดฮ่องกง “แครี่ ลัม” ยืนยันเดินหน้ากฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนในวันพุธนี้ และจะไม่ลาออก
ฮ่องกงค่อยๆกลับสู่ภาวะปกติในเช้าวันนี้ ตำรวจปราบจลาจลตรึงกำลังรอบอาคารรัฐสภาหลังจากเหตุตะลุมบอนระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อคืนวานนี้ (9 มิ.ย.)
ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง นาง แครี่ ลัม (Carrie Lam Cheng Yuet-ngor) แถลงเมื่อเช้านี้ (10 มิ.ย.) ประกาศคำมั่นว่าจะฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน แต่ยืนยันไม่ล้มกฎหมาย และเธอจะไม่ลาออกจากตำแหน่งด้วยความขัดแย้งในเรื่องนี้
นาง แครี่ ลัม กล่าวว่ารัฐบาลฮ่องกงยังรักษาสัญญาในการพิทักษ์สิทธิมนุษย์ชน และจะปรับปรุงการสื่อสารอธิบายเกี่ยวกับกฎหมายแก่สาธารณะ
จากกระแสเรียกร้องให้นางลัมลงจากเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุด เมื่อผู้สื่อข่าวถามแครี่ ลัมจะลาออกหรือไม่ นางยืนยันไม่ลาออก และว่าเธอได้ทุ่มเททุกสิ่งอย่างตั้งแต่เข้าตำแหน่งนี้เมื่อสองปีที่แล้ว และโดยเฉพาะในเวลานี้ที่ฮ่องกงเผชิญความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ก็ยิ่งต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
นอกจากนี้แครี่ ลัม ยังกล่าวปฏิเสธอบย่างมีอารมณ์ต่อกระแสกล่าวหาที่ว่า “กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เป็นคำสั่งจากปักกิ่ง”
แครี่ ลัมชี้ว่าการเดินขบวนประท้วงอย่างมีระเบียบและสันติกัน “เป็นส่วนใหญ่”ในวันอาทิตย์นั้น ยืนยันถึงเสรีภาพและสิทธิของชาวฮ่องกงอย่างเต็มเปี่ยม และขอแสดงความเสียใจต่อการปะทะระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงในตอนเที่ยงคืนที่ผ่านมา
ในวานนี้กลุ่มประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน ได้ชุมนุมกันบริเวณอาคารรัฐสภาฮ่องกง โดยกลุ่มผู้จัดการประท้วง Civil Human Rights Front อ้างว่ามีผู้มาชุมนุมมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งมากกว่าเท่าตัวของการประท้วงกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเมื่อปี 2003 ขณะที่หน่วยตำรวจประมาณผู้ประท้วงอย่างมากสุดที่จำนวน 240,000 คน
ในเช้าวันนี้ ตำรวจได้ทำบันทึกข้อมูลส่วนตัวของผู้ประท้วงราว 300 คนที่ถูกจับมายังสถานีตำรวจว่านไจ๋ (Wan Chai)
ขณะที่หัวหน้าคณะรัฐมนตรี (chief secretary) นาย แมธทิว เซ็ง (Matthew Cheung Kin-chung) กล่าวว่าโดยส่วนใหญ่แล้วการประท้วงเป็นไปอย่างสันติ แต่ก็เสียใจที่เกิดเหจุรุนแรงจากกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงไม่กี่คน
รายงานข่าวของเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ เล่าเหตุการณ์การปะทะว่า ในราวเที่ยงคืนผู้ประท้วงที่สวมหน้ากากได้รุกล้ำเส้นห้ามเข้าและพยายามเข้าไปในตึกรัฐสภา กลุ่มผู้ประท้วงได้ใช้ที่กั้นเหล็กรอบๆอาคารรับมือตำรวจที่เข้ามาผลักดันกลุ่มผู้ประท้วงออกไป นอกจากนี้ยังมีการขว้างปาขวดใส่เจ้าหน้าที่ซึ่งใช้สเปรย์พริกไทยและไม้กระบองโต้ตอบ ขณะที่กลุ่มตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงบางคน ระหว่างการปะทะนี้มีเจ้าหน้าที่อย่างน้อยสามคนได้รับบาดเจ็บ
นาย แมธทิว เซ็ง ซึ่งถือเป็นผู้นำใหญ่หมายเลขสองของฮ่องกง ยืนยันว่าการผ่านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปจีนนั้นเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ
“สภานิติบัญญัติจะเปิดการประชุมพิจารณากฎหมายในวันพุธ และหวังว่าจะเป็นไปอย่างสงบ”
สำหรับกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีนนั้น ถูกต่อต้านอย่างกว้างขวางจากกลุ่มธุรกิจ นักกฎหมาย นักศึกษา กลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย และกลุ่มศาสนา
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มต่อต้านกฎหมายได้ออกมาเดินขบวนประท้วง ด้วยความวิตกกลัวว่ากฎหมายฯนี้จะลดทอนอธิปไตยด้านกฎหมายของดินแดนฮ่องกง
ณะที่ผู้นำสูงสุดฮ่องกง พยายามคลายความวิตกของกลุ่มประท้วง โดยรัฐบาลได้จัดทำร่างปรับแก้กฎหมายเพิ่มเติม รวมทั้งสร้างหลักประกันสิทธิมนุษย์ชน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและยุโรปได้แถลงเตือนอย่างเป็นทางการ รวมทั้งมีการล็อบบี้จากกลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศ และกลุ่มสิทธิมนุษย์ชน ที่วิตกกลัวเช่นกันว่าการรับรองกฎหมายนี้จะบั่นทอนอำนาจกฎหมายแม่บทของฮ่องกง
สื่อชั้นนำในฮ่องกง หมิงเป้า (Mingpao) ระบุในบทบรรณาธิการว่ารัฐบาลจะต้องฟังกลุ่มประท้วงอย่างจริงจัง และการเดินหน้ารับรองกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีน จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น
ส่วนองค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) กล่าวว่ากฎหมายฯจะคุกคามสิทธิมนุษย์ชน
“หากกฎหมายฯนี้ผ่านการรับรอง จะช่วยขยายอำนาจจีนในการปราบปรามกลุ่มที่มีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาล และกลุ่มอื่นๆ เช่นเดียวกับที่จีนทำในแผ่นดินใหญ่”
ทั้งนี้อดีตเจ้าอาณานิคมอังกฤษได้ส่งมอบฮ่องกงคืนสู่จีนในปี 1997 โดยมีข้อตกลงที่เป็นหลักประกันอำนาจปกครองตัวเองและเสรีภาพต่างๆ รวมทั้งระบบกฎหมายที่แยกจากแผ่นดินใหญ่ กลุ่มการทูตและผู้นำธุรกิจหลายกลุ่มเชื่อว่าระบบกฎหมายฮ่องกงที่แยกจากจีนนั้นเป็นปราการที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดน