สำนักข่าวรอยเตอร์ส—รายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีน เซอร์ไพร์สวงการอย่างมาก ยอดค้าปลีกผลผลิตอุตสาหกรรมระหว่างเดือนเม.ย. ขยายตัวแผ่วๆ ยิ่งทวีแรงกดดันให้จีนต้องระดมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ขณะที่สงครามการค้ากับสหรัฐฯกำลังร้อนระอุ ก็ยิ่งสร้างความเสี่ยงแก่เศรษฐกิจ
เป็นครั้งแรกนับจากปี 2552 ที่ยอดขายเสื้อผ้าในจีนตกลง แสดงว่าผู้บริโภคจีนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังไม่ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนอีกครั้งในวันศุกร์(10 พ.ค.)
สำนักสถิติแห่งชาติจีนแถลงตัวเลขเศรษฐกิจในวันพุธ(15 พ.ค.) ระบุการขยายตัวภาคค้าปลีกทั้งหมดของเดือนเม.ย. โตในอัตรา 7.2 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นการขยายตัวอย่างเชื่องช้าที่สุดนับจากเดือนพ.ค. 2546 อีกทั้งเป็นระดับที่ต่ำกว่าตัวเลขของเดือนมี.ค. 8.7 เปอร์เซ็นต์ และยังต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้ที่ 8.6 เปอร์เซ็นต์
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าผู้บริโภคเริ่มลดการใช้จ่ายซื้อสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงถนอมร่างกายและเครื่องสำอาง ไปถึงตัดการใช้จ่ายสินค้าที่ราคาแพง อย่างเช่น รถยนต์
“ยอดที่ซบเซามากนี้ มีสาเหตุส่วนหนึ่งจากภาวะจ้างงานที่ย่ำแย่ และรายได้ที่ตกลงของกลุ่มรายได้ปานกลางและกลุ่มรายได้ต่ำ
หากจีนต้องการให้การบริโภคเป็นปัจจัยสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจต่อไป ก็ต้องระดมมาตรการตัดลดภาษีอย่างเจาะจง หรือไม่ก็ออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มรายได้ปานกลางและกลุ่มรายได้ต่ำ” เนี่ย เหวิน นักเศรษฐศาสตร์ประจำHwabao Trust กล่าว
โดยภาพรวมแล้ว ตัวเลขเศรษฐกิจจีนในเดือนเม.ย.แสดงถึงการสูญเสียโมเมนตัมหลังจากที่ดัชนีเศรษฐกิจเดือนมี.ค.กระเตื้องขึ้นและให้ความหวังว่าภาวะเศรษฐกิจจะกระเตื้องและค่อยๆมั่นคงขึ้น ไม่ต้องออกมาตรการมาช่วยเหลืออะไรมากมาย
ด้านการเติบโตของผลผลิตอุตสาหกรรม ชะลอตัวมากกว่าที่คิด โดยการขยายตัวในเดือนเม.ย.เท่ากับ 5.4 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี ถดถอยจากเดือนมี.ค.ที่ดีดตัวดีถึง 8.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การวิเคราะห์ของสำนักรอยเตอร์สคาดการณ์ผลผลิตอุตสาหกรรมจะโตที่ 6.5 เปอร์เซ็นต์
ด้านการส่งออกเดือนเม.ย.ก็หดตัวอย่างไม่คาดคิดเช่นกันท่ามกลางศึกขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯและความต้องการโลกที่ฝ่อแฟบ ขณะที่คำสั่งซื้อสินค้าโรงงานใหม่ยังเฉื่อยชา
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม อย่างผลผลิตยานพาหนะเครื่องยนต์ลดลงเกือบ 16 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตัวเลขในต้นสัปดาห์ระบุว่ายอดขายรถยนต์ในจีนช่วงเดือนเม.ย.ตกลง 14.6 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นยอดขายที่ตกลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10
นักวิเคราะห์เนี่ยชี้ว่าจีนอาจต้องตัดลดอัตราเงินสดสำรองธนาคารอย่างครบครันในเดือนมิ.ย.ก่อนซัมมิต G20 ที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะได้เจอกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
การลงทุน
ด้วยกระแสวิตกเกี่ยวกับความต้องการภายใน การแถลงตัวเลขเศรษฐกิจในวันพุธ ยังเผยภาวะถดถอยอย่างน่าประหลาดใจในภาคการลงทุน
การเติบโตในภาคการลงทุนสินทรัพย์ถาวร ชะลอตัวที่อัตรา 6.1 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่กลุ่มวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ว่าจะโต 6.4 เปอร์เซ็นต์
ส่วนอัตราเติบโตในการใช้จ่ายภาคโครงสร้างพื้นฐาน ขยายไปอย่างมั่นคงดีที่ 4.4 เปอร์เซ็นต์ในเดือน ม.ค.-เม.ย.
ภาคที่ดูสดใสซึ่งมีอยู่ไม่กี่ภาค ได้แก่ ภาคการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ขยายตัวที่ 12 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเม.ย. เท่าๆกับการขยายตัวในเดือนมี.ค. จากการคำนวณของรอยเตอร์ส แต่ความต้องการบ้านหลังใหม่ยังมีไม่มาก สะท้อนการชะลอตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง