กลุ่มสื่อจีนรายงาน (16 ก.พ.) สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics of China) เปิดเผยรายงานสถิติความยกจน ระบุเมื่อปี 2561 จีนช่วยประชาชนในเขตทุรกันดารพ้นความยากจนกว่า 13.86 ล้านคน
รายงานระบุว่า จีนลดจำนวนคนยากจนในเขตชนบทจากจำนวนกว่า 100 ล้านคนเมื่อปี 2555 เหลือเพียง 16.6 ล้านคนเมื่อปี 2561
เมื่อปี 2561 จำนวนรายได้เฉลี่ยของประชาชนในเขตชนบทเพิ่มขึ้นเป็น 10,371 หยวน หรือราว 51,855 บาท ต่อคนต่อปี ด้วยอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 8.3 ต่อปี
จีนถือว่า ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าปีละ 2,300 หยวน หรือราว 11,500 บาท ต่อปีเป็นคนยากจน ซึ่งรัฐบาลจะต้องหาวิธีช่วยคนเหล่านี้ให้หลุดพ้นจากความยากลำบากภายในปี 2563
สถิติทางการบ่งชี้ว่า ความสำเร็จในการลดความยากจนของจีนช่วยแก้ปัญหาความยากจนได้ถึงร้อยละ 70 ของความยากจนในระดับโลกในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
หลิว หย่งฝู ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันความยากจนของประเทศกล่าวว่า ความยากจนอย่างที่สุดจะหมดไปจากประเทศภายในสิ้นปีพ.ศ. 2563 โดยผลงานการลดความยากจนสอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนอย่างรวดเร็ว
กว่า 40,000 วิสาหกิจถูกจับคู่กับหมู่บ้านที่ยากจนกว่า 30,000 แห่งในอันเป็นความพยายามที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมในท้องถิ่น และชะลอการอพยพของเยาวชนที่มีทักษะพรสวรรค์
เป้าหมายความพยายามในการต่อสู้กับความยากจนนี้ เป็นความมุมานะของรัฐบาลจีน ซึ่งตั้งเป้าหมายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 และเมื่อปีที่แล้วยังระบุวาระความยากจน ว่าเป็นหนึ่งใน "3 การต่อสู้อันยากลำบาก" ที่จีนต้องชนะในปีข้างหน้า ควบคู่ไปกับการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินและการจัดการกับมลพิษ