กลุ่มสื่อต่างประเทศอ้าง (9 พ.ย.) การรายงานของโครงการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อชนชาติทิเบต (International Campaign for Tibet: ICT) อันมีสำนักงานอยู่ในสหรัฐฯ ระบุถึงการจุดไฟเผาตัวเองของหนุ่มชาวทิเบตวัย 23 ปี ในมณฑลเสฉวน เพื่อประท้วงรัฐบาลจีนเป็นรายที่สองของปีนี้ และเป็นผู้เผาตนเองเพื่อประท้วงจีนรายที่ 154
รายงานระบุว่า หนุ่มทิเบตผู้พลีชีพในกองเพลิงต้องการเรียกร้องให้จีนยิมยอมให้องค์ทะไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบตเดินทางกลับสู่ดินแดนแห่งจิตวิญญาณอีกครั้ง
กรณีการจุดไฟเผาร่างกายตนเองของชาวทิเบต ถือเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในทิเบตและพื้นที่ใกล้เคียง โดยตั้งแต่ปี 2552 มีชาวทิเบตกว่า 153 คน ใช้เปลวเพลิงเป็นเครื่องมือประท้วงทางการจีน จนลุกลามกลายเป็นเหตุการณ์ความวุ่นวายใหญ่อยู่หลายครั้งหลายครา
ทางด้านองค์ทะไล ลามะ ที่ต้องพลัดถิ่นฐานบ้านเกิดไปยังเมืองธรรมศาลา ประเทศอินเดียในปี 2502 หลังจากล้มเหลวในการขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำของชาวทิเบตในจีน อธิบายว่า ชาวทิเบตต่างสิ้นหวังต่อรัฐบาลจีน จึงปรากฏการประท้วงเช่นนี้ขึ้นมา ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่มีพลังอำนาจหยุดยั้งความรู้สึกเหล่านั้นได้
ทิเบตกลายเป็นดินแดนแห่งความขัดแย้ง นับตั้งแต่รัฐบาลปักกิ่งส่งกองทัพเข้ายึดครองดินแดนบนเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนกุมอำนาจปกครองประเทศเมื่อปี 2492 โดยอ้างว่า ทิเบตเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีนมานานหลายร้อยปีแล้ว แต่ชาวทิเบตจำนวนมากแย้งว่า ทิเบตเป็นรัฐอิสระมายาวนานในประวัติศาสตร์ภายการปกครองของผู้นำในศาสนาพุทธแบบทิเบตคือ องค์ทะไล ลามะ