MGR Online (10 ก.พ.) - สถานทูตจีนประจำกรุงเทพฯ ได้จัดงานฉลองวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติจีน หรือวันตรุษจีนที่กำลังมาถึงในวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ ณ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เมื่อวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ โดยมีศาสตรจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติมาเป็นแขกคนสำคัญของงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งจากไทยและจากจีน ตลอดจนบรรดาผู้แทนจากหน่วยงานธุรกิจ สมาคมฯ ต่างๆ และกลุ่มสื่อมวลชนมากมาย
นายหลู่ย์ เจี้ยน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และภริยา ได้ยืนต้อนรับ ฯพณฯ พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี, ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา, ศาสตรจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ , นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ประธานคณะมนตรีสันติภาพและความปรองดองแห่งเอเชีย (APRC), นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานสภาธุรกิจไทย-จีน, นายกร ทัพพะรังสี นายกสมาคมมิตรภาพไทย - จีน , นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานธุรกิจ สมาคมฯ ต่างๆ และกลุ่มสื่อมวลชนฯ ที่หน้าทางเข้าอาคารสถานทูต พร้อมกับถ่ายภาพ ก่อนชมการแสดงเชิดสิงโตซึ่งตามความเชื่อในประเพณีการเชิดสิงโตของจีน นับถือความศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ของสิงโต ที่จะบันดาลโชคลาภมาให้ คอยช่วยปกป้องและปัดเป่าโพยภัยต่าง ๆ ไม่ให้มารังควาน และเชื่อกันว่าผู้ใดได้ชมการเชิดสิงโต จะมีโชคลาภ เจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคล จึงนิยมเชิดสิงโตในวันตรุษจีนและสืบทอดมาจนทุกวันนี้ โดยการแสดงสิงโตนี้ เป็นการแสดงของนักเรียนจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
นายหลู่ย์ เจี้ยน กล่าวในการเปิดบ้านฉลองพิธีตรุษจีน ว่าจีนเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย มีการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน จีนและไทยมีความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่ดีมาก ทั้งภาคการค้าอีคอมเมิร์ซและเศรษฐกิจดิจิทัลนอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือเชื่อมเส้นทางรถไฟ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับความร่วมมือภายใต้โครงการเส้นทางสายไหมใหม่ และเป็นมิติใหม่ของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ประเทศไทยยังเป็นเป้าหมายปลายทางการท่องเที่ยวของชาวจีน ในปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวไทยกว่า 9.8 ล้านคน
เมื่อมองไปข้างหน้า จีนและไทย จะจับมือกันเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ โดยเมื่อปีที่แล้ว เราได้จัดการประชุมสมัชชา 19 ซึ่งเป็นเปิดศักราชใหม่สำหรับการสร้างจีนให้เป็นสังคมนิยมที่ทันสมัยอย่างรอบด้าน ขณะที่รัฐบาลไทยได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ถือว่าเป็นการชี้ทางด้านการพัฒนาประเทศในระยะยาวเช่นกัน
จีนให้ความสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือจีน-ไทย เป็นอย่างมาก สนับสนุนฝ่ายไทยในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และการแสวงหาแนวทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของตนเองอย่างแน่วแน่
"พวกเรายินดีและพร้อมที่จะร่วมมือกับฝ่ายไทยตามการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งทาง กับยุทธศาสตร์ชาติของไทย อย่างเช่น Thailand 4.0 ขยายความร่วมมือในทุกสาขา เพื่อนำความผาสุขให้กับประชาชนทั้งสองประเทศ การขยายเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างจีน-ไทย การพัฒนาอุตสาหกรรมแนวหน้า เศรษฐกิจแชร์ริ่ง และให้สองฝ่ายจูงมือกันเข้าสู่ยุคสมัยใหม่เพื่อให้ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างจีน-ไทย อยู่แล้ว ได้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ท่านสุภาพสตรี สุภาพบุรุษ เพื่อนมิตรทั้งหลาย ในวาระดิถี ที่จีน-ไทย จูงมือกันเข้าสู่ยุคสมัยใหม่นี้ ข้าพเจ้าและภรรยา รวมถึงเพื่อนร่วมงานทุกท่านของสถานทูตจีน ต่างรู้สึกมีความอบอุ่นใจและซาบซึ้งในเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ฉลองงานตรุษจีนในวันนี้ ร่วมกับเพื่อนๆ ทุกท่าน และข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ในวันนี้ พวกเราได้เปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ของสถานทูตจีนด้วยบรรยากาศของวันตรุษจีน"
นายหลู่ย์ เจี้ยน กล่าวว่า "ในนามของเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนที่ประจำอยู่ในประเทศไทยทั้งหลาย ขออวยพรวันตรุษจีนให้กับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอให้ทุกท่านจงมีสิริมงคลในปีจอ มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ครอบครัวมีความสุข คิดสิ่งใดสมหวังทุกประการ ขอให้ประเทศจีนและประเทศไทยจงเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ปลูกข้าวปลูกผักได้ผลดี ธุรกิจ ธุรกรรมทุกชนิดเจริญมั่งคั่ง"
ศาสตรจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า ประเพณีตรุษจีน ถือเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีน เป็นวันแรกของการเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ อันเป็นเวลาของความสุขสวัสดี การอยู่พร้อมหน้า มีความสงบสุข และสุขภาพ
การจัดงานฯ วันนี้ เปรียบเสมือนให้พี่น้องชาวจีน ชาวไทยได้มาฉลองร่วมกันพร้อมหน้าโดยเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างชาวจีน และชาวไทย เป็นมิตรที่มีความใกล้ชิดดุจเครือญาติ ตอกย้ำว่าจีน-ไทย ไม่ใช่อื่นไกล คือพี่น้องกัน
ในความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนนั้น มีความแน่นแฟ้น ตั้งอยู่ในความเสมอภาค ยึดหลักผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศอย่างแท้จริง
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีดังกล่าวระหว่างสองประเทศของเรา ทำให้ประชาชนเข้าใจกันมากขึ้น เป็นการเพิ่มพูนมิตรภาพความร่วมมือในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การลงทุน วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ล้วนจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และความสำคัญของประเทศเราทั้งสองให้ยั่งยืนมั่นคงตลอดไป
ศาสตรจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย กล่าวว่า "ในนามของแขกผู้มีเกียรติชาวไทย ที่มาร่วมพิธีในวันนี้ และพี่น้องประชาชนชาวไทย ขออวยพรท่านหลู่ย์ เจี้ยน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และภริยา รวมทั้งประชาชนชาวจีนมีความสุข ร่ำรวย มั่งคั่ง สมปรารถนาในปีจออันเป็นมงคลนี้"
