xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์เยือนจีน ในความคาดหวังและคาดหมายฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง (ซ้าย) และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างพิธีต้อนรับ ที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง วันที่ 9 พฤศจิกายน (ภาพไชน่าเดลี)
ไชน่าเดลี รายงาน (9 พ.ย.) ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายคน ถึงการพบกันระหว่างสองผู้นำโลก คือประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งเยือนจีนวันที่ 8 -10 พฤศจิกายน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดมุมมองเชิงลึกในสัมพันธ์ทวิภาคี ตลอดจนประเด็นระดับภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งจะมีผลกับอนาคตโดยรวม

ลอว์เรนซ์ บราห์ม นักวิจัยอาวุโสจาก Center for China and Globalization กล่าวว่า ไม่มีฝ่ายใด ได้ประโยชน์อะไรเลย จากความขัดแย้งกันของสองชาติ จีน-สหรัฐ ตรงข้ามกับความสัมพันธ์ที่ดียังจะช่วยให้เกิดผลสร้างสรรค์กว่า ซึ่งสองชาติจำเป็นต้องร่วมมือกันแทนที่จะต่างคนต่างทำ การเยือนจีนของผู้นำสหรัฐฯ อย่างน้อยก็หวังว่าจะได้อะไรบ้าง"

หลู จิ้นหยง ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยการค้าระหว่างประเทศ แสดงความเห็นว่า การเยือนระดับรัฐกับรัฐนี้ มีขึ้นในเวลาที่ความสัมพันธ์ทั้งสองชาติมีเสถียรภาพ แม้นโยบายของทรัมป์กับจีนจะยังคาดเดายาก และยังขัดแย้งกันในแนวการค้าและเศรษฐกิจ แต่อนาคตความสัมพันธ์ทวิภาคียังดูสดใส มั่นคง และจำเป็นยิ่งสำหรับการก้าวไปข้างหน้า"

บี.อาร์. ดีภัค ศาสตราจารย์ จากศูนย์จีนศึกษา Jawaharlal Nehru University ในกรุงนิวเดลี กล่าวว่า ในข้อเท็จจริง ที่ผ่านมา ทรัมป์ กับ สี ผู้นำสองชาติได้สื่อสารกันอยู่ตลอด และเชื่อว่าทั้งสองมีบางอย่างที่เข้ากันได้ คุยกันได้

จ้าว หมิงห่าว นักวิจัยจาก Charhar Institute เห็นว่าบรรยากาศแห่งสันติภาพกับประชาคมโลกนี้ จำเป็นสำหรับจีน เพื่อให้โลกรู้ว่าความฝันจีนคือชาติที่ต้องการฟื้นคืน และสหรัฐฯ เองก็มีความมุ่งหวังในการจะสร้างความยิ่งใหญ่ของตนอีกครั้ง ดังนั้น ความร่วมมือกันจะทำให้ไปได้ไกลกว่า ตามแนวคิด “กับดักทิวซิดิดีส” (Thucydides trap) เพื่อหลีกเลี่ยงกับดัก การเผชิญหน้า ทำลายล้าง วิธีหลีกเลี่ยงนั่นคือการส่งเสริมรูปแบบความสัมพันธ์ใหม่ๆ ความร่วมมือ การแข่งขัน และบริหารความขัดแย้ง ระหว่างมหาอำนาจที่เป็นผู้นำโลก เพื่อการพัฒนาของการเมืองระหว่างประเทศ รักษาสถานะมหาอำนาจของทุกฝ่าย และแนวคิดนี้เป็นนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสี จิ้นผิงเช่นกัน

เดวิด ดอลลาร์ นักวิจัยอาวุโส John L.Thornton China Center, Brookings Institution กล่าวว่า ความร่วมมือของสองชาติไปได้ค่อนข้างดี ด้วยมีประเด็นเกาหลีเหนือ และบางทีจีนก็พร้อมที่จะเปิดหมากก้าวทางการค้าใหม่ๆ แต่ก็อย่าเพิ่งคาดหมายว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงใหญ่โตเกินไป

ชุ่ย ฟาน ศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยธุรกิจและเศรษฐกิจ University of International Business and Economics และเป็นผู้อำนวยการ China Society for World Trade Organization Studies ให้ข้อสังเกตว่า สี จิ้นผิง และโดนัลด์ ทรัมป์ คงวางความสัมพันธ์ระยะยาวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ซึ่งสหรัฐเองก็เปลี่ยนทัศนคติกับการค้าโลกตั้งแต่ ทรัมป์ขึ้นเป็นผู้นำเมื่อเดือนมกราคม ขณะที่จีนเองได้เล่นบทผู้นำโลกมากขึ้น และกลับเป็นฝ่ายผลักดันให้เกิดการค้าที่เป็นธรรม การค้าเสรี ตลอดจนการลงทุนอื่นๆ และการเปิดการค้าเสรีรอบนี้ จีนมาพร้อมทั้งภาคบริการ, อุตสาหกรรม รวมถึงภาคการเงินด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น