ไชน่าเดลี - นักโบราณคดีขุดพบโครงกระดูกมนุษย์สายเลือดจีนในเคนย่า คาดมาจากยุคเดียวกับแม่ทัพเจิ้ง เหอแห่งกองทัพเรือของราชวงศ์หมิง
อ้างอิงจากการประชุมว่าด้วย “ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับแอฟริกาตะวันออกในยุคโบราณและยุคร่วมสมัย” ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกที่เกาะมันดะ เมืองลามูทางตอนเหนือของเคนย่า เมื่อวันศุกร์ (28 ก.ค.) ที่ผ่านมา นักโบราณคดีจีน สหรัฐฯ และเคนย่า ได้ร่วมกันประกาศการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ที่มีความเกี่ยวพันกับสายเลือดจีน
แชป คูซิมบา ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยอเมริกัน (American University) ซึ่งทำหน้าที่ผู้นำการสำรวจ กล่าวว่านับเป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบวัตถุโบราณลักษณะดังกล่าวในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก โดยการขุดค้นเริ่มต้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2555
โครงกระดูกของมนุษย์สามคนมีฟันซี่หน้าที่มีลักษณะเฉพาะของชาวเอเชียตะวันออก และหนึ่งในสามยังสามารถบ่งชี้ได้ว่ามาจากช่วงเวลาเดียวกันกับที่ เจิ้ง เหอ (Zheng He) มหาขันทีผู้ครองตำแหน่งแม่ทัพกองเรือจีน ซึ่งเดินทางไปยังแอฟริกาตะวันออกในศตวรรษที่ 15
ส่วนโครงกระดูกของมนุษย์อีกสองคนถูกสันนิษฐานว่ามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาหลังการเดินเรือของเจิ้ง เหอ โดยคูซิมบาเผยว่า คนเหล่านี้อาจเดินทางสู่แอฟริกาตะวันออกผ่านเส้นทางการค้าบนดินหรือเส้นทางสายไหมทางทะเลก็ได้
ทั้งนี้ เจิ้ง เหอ ถือเป็นนักเดินทาง นักสำรวจ และนักการทูตคนสำคัญในประวัติศาสตร์จีน โดยเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ “คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส แดนมังกร” ที่น่าจะเดินทางไปยังแอฟริกาตะวันออกระหว่างการล่องเรือเจ็ดรอบสู่มหาสมุทรอินเดียระหว่างปี พ.ศ.1948-1976 ในยุคราชวงศ์หมิง