MGR Online/ ไชน่าเดลี - ผู้นำรัฐบาลจีนเชื่อมั่นสันติภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยืนยันการหันหน้าเจรจาเป็นหนทางเดียวในรักษาความสงบสุขในยามที่เกิดปัญหาขัดแย้งใดๆ เผยจีน-อาเซียนกำลังเจรจา “แนวการปฏิบัติในทะเลจีนใต้” ซึ่งก้าวหน้าไปแล้วระดับหนึ่ง ขณะที่ความร่วมมือจีน-สหรัฐฯในเอเชียแปซิฟิก ก็ยังคงอยู่ โดยความร่วมมือนี้ได้สร้างโอกาสให้แก่กลุ่มอาเซียน
จีนเปิดการประชุมข่าว หัวข้อ “นายกรัฐมนตรีจีน นายหลี่ เค่อเฉียง พบปะกลุ่มผู้สื่อข่าวจีนและต่างประเทศ” หลังการปิดประชุมการประชุมสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน หรือ เอ็นพีซี (National People's Congress/NPC)ในวันที่ 15 มี.ค. ณ มหาศาลาประชาคม กรุงปักกิ่ง
ระหว่างการประชุมฯ กลุ่มผู้สื่อข่าวจีนและต่างประเทศทั่วโลก ต่างได้ตั้งคำถามในประเด็นต่างๆ สำหรับประเด็นในภูมิภาคเอเชีย ผู้สื่อข่าวจากสื่อไทย น.ส.สุรัติ ปรีชาธรรม บรรณาธิการข่าวจีนของเครือผู้จัดการ-NEWS1 ประจำกรุงปักกิ่ง ได้ถามนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ถึงบทบาทของจีนในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ภายใต้สถานการณ์ที่รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังมิได้ประกาศนโยบายสู่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอย่างชัดเจน ขณะที่กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หวังว่าภูมิภาคนี้จะยังคงสันติภาพและความมั่นคงสืบไป มิมีใครต้องการเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ยิ่งกว่านี้ไม่ต้องการที่จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกข้าง ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว ปัจจุบันจีนมีบทบาทอย่างไรในภูมิภาค? และมีคอุดมคติเกี่ยวกับระเบียบและกฎเกณฑ์ภายในภูมิภาคอย่างไร? จีนและสหรัฐฯจะสามารถอยู่ร่วมกันในภูมิภาคอย่างสันติสุขอย่างไร?
นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียงได้ตอบคำถามว่า “ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เป็นแหล่งอาศัยที่สันติของหลายประเทศ จีนไม่เชื่อว่าจะเกิดการเผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจ จนทำให้เกิดสถานการณ์ที่ “ต้องเลือกข้าง” ดังในยุคสงครามเย็น หากเกิดวิกฤตการณ์ใด การหันหน้าเข้าหากันพูดคุยกัน เป็นหนทางเดียวในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในอาณาบริเวณ
นอกจากนี้จีนยังกำหนดให้การดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับอาเซียนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นภารกิจสำคัญอันแรกต้นๆ พร้อมสนับสนุนกลุ่มประเทศอาเซียน และผลักดันความร่วมมือที่จะสร้างอาเซียนเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ดังนั้น จีนหวังที่จะเห็นสันติภาพและความมั่นคง และระเบียบในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการสร้างกรอบการเจรจา และสกัดความวุ่นวายต่างๆ ที่อาจปะทุขึ้น การหันมาเจรจาฯ นับเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างมีสติปัญญา
ขณะนี้จีนและกลุ่มประเทศในอาเซียน กำลังปรึกษาหารือ “แนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้” และมีความก้าวหน้าในแก่นสาระสำคัญ จีนปรารถนาที่จะรักษาสันติภาพความมั่นคงในทะเลจีนใต้ หากเกิดความขัดแย้งใดก็มาเจรจากันบนโต๊ะเจรจา
สำหรับความร่วมมือจีนและสหรัฐอเมริกาภายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือกันในหลายด้าน อาทิ บริษัทข้ามชาติสัญชาติอเมริกันหลายรายได้จัดตั้งสำนักงานการตลาดในประเทศจีน จีนหวังว่าความร่วมมือซึ่งจะยังผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองฝ่าย จะขยายใหญ่ยิ่งขึ้นๆในอนาคต ขณะที่กลุ่มประเทศอาเซียนก็จะได้รับอานิสงส์ นั่นคือโอกาสในการพัฒนาต่างๆ
ด้านไชน่าเดลี ได้สรุปประเด็นอื่นๆ ที่นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียงได้ตอบคำถามกับนักข่าวต่างประเทศ ครอบคลุมตั้งแต่ ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจ การค้าเสรี สถานการณ์เกาหลี ตลาดแรงงาน ไปจนถึง มลพิษหมอกควัน
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงกล่าวถึงความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกาว่า ไม่ต้องการเห็นสงครามการค้าแตกหักสองชาติ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการค้ากับใครๆ ขณะที่เศรษฐกิจของจีนจะยังคงเติบโตในระดับปานกลาง จีนจำเป็นต้องรัดเข็มขัดและป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน
ในประเด็นการค้าเสรีนั้น นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า ข้อตกลงการค้าภูมิภาคที่จีนเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินไปอย่างเปิดกว้าง แต่จะไม่เข้าไปยังกิจการอันเกินกว่าขอบเขต
ผู้นำจีนได้ตอบคำถามการบริหารรัฐบาลว่าจะมุ่งทำภารกิจให้สำเร็จไม่ว่าจะต้องพบอุปสรรคขวากหนามเพียงไร ส่วนกรณีสถานการณ์เกาหลีนั้น ยอมรับว่าคงไม่มีใครอยากเห็นความวุ่นวายตรงหน้าประตูบ้านของตน
เรื่องตลาดแรงงานนั้น รัฐบาลจีนมีงานที่จะต้องดำเนินการเพื่อประชาชนได้พัฒนาใช้ความสามารถ และสร้างโอกาสทองของตนเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งรองานจากรัฐบาล
รัฐบาลยังต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสเพื่อผลประโยชน์แผ่นดินโดยรวมร่วมกัน มากกว่าจะมุ่งแต่ประโยชน์เฉพาะของแต่ละหน่วยงานท้องถิ่นอย่างแยกแบ่ง และต้องมั่นใจว่าทุกงานของรัฐบาลสามารถตอบความต้องการเรียกร้องของประชาชนเสมอ
ประเด็นสิ่งแวดล้อมมลพิษหมอกควัน รัฐบาลจีนจะตั้งกองทุนพิเศษเพื่อจัดงบวิจัยให้กับนักวิทยาศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้เห็นท้องฟ้าใสในจีน
(คลิปนาทีที่ 1:45:30 ผู้สื่อข่าวจากสื่อไทย น.ส.สุรัติ ปรีชาธรรม บรรณาธิการข่าวจีนของเครือผู้จัดการ-NEWS1 ประจำกรุงปักกิ่ง ได้ถามนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ถึงบทบาทของจีนในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ภายใต้สถานการณ์ที่รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังมิได้ประกาศนโยบายสู่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอย่างชัดเจน)