xs
xsm
sm
md
lg

ค้าต่างประเทศ-ส่งออกจีนปี2003พุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไชน่าเดลี่30/05/04 – รัฐบาลจีนเผยผลการจัดอันดับ ผู้ส่งออกและบริษัทค้าระหว่างประเทศชั้นนำของแดนมังกรปี 2003 ระบุมูลค่าการค้าขยับตัวจากปีก่อนหน้า สะท้อนศักยภาพการขยายกิจการและการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดสากลของผู้ประกอบการในจีน

เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์จีน ทำการจัดอันดับ 200 อันดับผู้ส่งออกหัวกะทิ และ 500 อันดับบริษัทค้าระหว่างประเทศยักษ์ใหญ่ในแดนมังกรในด้านมูลค่าการค้าประจำปี 2003

สามอันดับแรกของผู้ส่งออกชั้นนำของจีน นำทีมโดย หงฝูจิ่น พรีซิชั่น อินดัสทรี่ ของเซินเจิ้น ด้วยยอดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศราว 6,420 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว โดยบริษัทดังกล่าว เป็นฐานการผลิตในแดนมังกรของหงไห่ พรีซิชั่น อินดัสทรี่ของไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการแก้ปัญหาเครื่องจักรชั้นนำของโลก

ส่วนอันดับที่ 2 และ 3 ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ต้าเฟิง คอมพิวเตอร์ ของบริษัทไต้หวันควันต้า (QUANTA) ผู้ผลิตแล็บท๊อปรายใหญ่ที่สุดในโลก และเอซัสเทค คอมพิวเตอร์ สาขาของเอซัส ยักษ์ผลิตคอมพิวเตอร์ โดยทั้ง 3 บริษัทข้างต้น ล้วนมาจากการลงทุนของบริษัทไต้หวันทั้งสิ้น

ในจำนวน 200 ผู้ส่งออกชั้นนำของจีน มี 99 ราย เป็นบริษัทต่างประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 87 ในปี 2002 คิดเป็นสัดส่วน 49.5% ขณะที่วิสาหกิจรัฐ มีสัดส่วนราว 35.5%

สำหรับมูลค่าการส่งออกโดยรวมของผู้ส่งออกจีนทั้ง 200 อันดับ อยู่ที่ 135,580 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 30.9% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดในแดนมังกร โดยมีมูลค่าการส่งออกโดยเฉลี่ยบริษัทละ 667.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 480.88 ล้านเหรียญสหรัฐในปีก่อนหน้า

ขณะที่บริษัทค้าระหว่างประเทศ 500 อันดับของจีน ก็มีมูลค่าการค้าทำลายสถิติแตะ 360,600 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 42.4% ของการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว โดยมูลค่าการค้าระหว่างประเทศโดยเฉลี่ยบริษัทละ 721.22 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 514.3 ล้านเมื่อปี 2002 ซึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า ดัชนีดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า การค้าระหว่างประเทศของจีน ได้มีการพัฒนาขอบเขตและความแข็งแกร่งมากขึ้น

บริษัทค้าระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ได้แก่ ซิโนเปค อินเทอร์เนชั่นแนล ด้วยมูลค่าการค้าทั้งสิ้น 15,890 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมา ได้แก่ เซินเจิ้น หงฝูจิ่น พรีซิชั่น อินดัสทรี่, เซี่ยงไฮ้ ต้าเฟิง คอมพิวเตอร์, ซิโนเคม, เอซัสเทค คอมพิวเตอร์, ไชน่า มิเนรัล แอนด์ เมทัล กรุ๊ป, โมโตโรล่า (ไชน่า) อิเล็กทรอนิกส์, ปิโตรไชน่า, โอเรียนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล (โฮลดิ่ง) และ โนเกีย (ไชน่า) อินเวสต์เม้นท์ ตามลำดับ

โดยในจำนวนผู้ส่งออกและนำเข้าชั้นนำทั้ง 500 อันดับนี้ มีบริษัทต่างประเทศราว 54% ขณะที่วิสาหกิจรัฐ มีสัดส่วนเพียง 31% ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์เผยว่า แต่เดิมวิสาหกิจรัฐ เคยผูกขาดการค้าระหว่างประเทศ แต่ปัจจุบันส่วนแบ่งในตลาดดังกล่าวเริ่มลดลง สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลกลาง มีการผ่อนปรนการควบคุมในธุรกิจนำเข้าและส่งออก ตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ)
กำลังโหลดความคิดเห็น