xs
xsm
sm
md
lg

SPA FOODS เคล็ดลับความสุขของ “ธีรนาฏ โชควัฒนา” ความอร่อยเพื่อสุขภาพที่ MW Wellness

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>ด้วยแนวคิดที่ตรงกัน จึงทำให้การโคจรมาพบกันระหว่างศูนย์สุขภาพ MW Wellness กับร้านอาหาร SPA Foods ของ ธีรนาฏ โชควัฒนา เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด นั่นคือแนวคิดที่ว่า การมุ่งรักษาสุขภาพในเชิงป้องกันมากกว่าการรักษา แก้ที่ต้นเหตุก่อนที่อาการจะบานปลาย ซึ่งก็หมายความถึงการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งการกินอาหารที่ดีมีคุณประโยชน์และการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย

จากความตั้งมั่นในทิศทางเดียวกันนี้เอง เมื่อได้รับคำชวนจาก MW Wellness ให้มาร่วมขยายสาขาของ SPA Foods ที่นี่ ธีรนาฏจึงไม่ลังเล เพราะการได้มีส่วนร่วมผลักดันให้ผู้อื่นมีชีวิตที่ดีขึ้น คืองานของเธอ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คลินิกเทคนิคการแพทย์ แมน เนเจอร์ แล็บ บ้านพระอาทิตย์ ต่อยอดมาเป็นศูนย์สุขภาพบนถนนรัชดาแห่งนี้ ที่รวมไว้ซึ่งคลินิกแพทย์ทางเลือก MW Wellness และห้องอาหาร SPA Foods ซึ่งตอบทุกโจทย์ได้อย่างครบครัน

หากคุณเคยพบกับหญิงสาวผู้ที่ดูอ่อนกว่าวัย-จนเรามั่นใจว่าไม่สามารถเดาอายุเธอได้ถูก-คนนี้ น่าจะคุ้นเคยกับความอารมณ์ดี ยิ้มง่าย และพูดคุยอย่างสนุกสนานของเธอ ซึ่งทันทีที่พบหน้า ธีรนาฏก็รีบคะยั้นคะยอให้ทีมงาน Celeb Online ชิมเบอร์เกอร์สูตรใหม่ล่าสุดที่เธอเพิ่งคิดได้ และชิ้นนี้เป็นชิ้นที่ 2 ในโลก “เพราะชิ้นแรกสามีดิฉันเป็นคนชิมไปแล้ว” เธอเล่าอย่างอารมณ์ดี พลอยทำให้เบอร์เกอร์แป้งดำสอดไส้ชีสเยิ้มๆ และเนื้อของ SPA Foods อร่อยยิ่งขึ้นกว่าเดิม

นี่เป็นหนึ่งในเมนูใหม่ที่ธีรนาฏขยันคิดออกมาเรื่อยๆ เพื่อเติมเมนูอาหารของร้านให้มีความแปลกใหม่ทั้งหน้าตาและรสชาติ แต่ก็ไม่ทิ้งซึ่งคุณค่าแบบเต็มๆ คำ จากโปรตีนถั่วเหลืองเกรดดี ที่นำมาแปรรูปเลียนแบบเนื้อสัตว์ทุกประเภท ทั้งหมู เป็ด ไก่ ปลา เนื้อวัว กุ้ง ฯลฯ ในชื่อผลิตภัณฑ์ SPA Foods by Teeranard และอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ J.V. ภายใต้ชายคา บริษัท นูทรีชั่น เฮ้าส์ จำกัด

อาหารทดแทนเนื้อสัตว์ดังกล่าวถูกนำมาผ่านการปรุงให้กลายเป็นเมนู “คีโตเจนิก” ซึ่งหมายถึง สูตรอาหารลดแป้งและน้ำตาลให้น้อยที่สุด (หรือเกือบไม่มีเลย) เน้นบริโภคไขมันเป็นหลัก รองลงมาคือ โปรตีน โดยธีรนาฏเป็นผู้ออกไอเดียในการสร้างสรรค์เมนูอาหารทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นเป็ดปักกิ่งลุยสวน ยำเนื้อสันสมุนไพร กุ้งทอดกระเทียมพริกไทยดำ ส้มตำไก่ทอด ฯลฯ ที่ยังคงไว้ซึ่งความอร่อยครบรสเหมือนอาหารจานปกติ แต่กลับได้คุณประโยชน์สูงสุด และไร้สารก่อมะเร็งในร่างกาย

จุดเริ่มต้นของนูทรีชั่น เฮ้าส์ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2534 โดยเริ่มจากภัตตาคารกระท่อมมังสวิรัติ ที่ถือเป็นห้องอาหารมังสวิรัติในสไตล์ยุโรปแห่งแรกๆ ในเมืองไทย ก่อนจะขยายเพิ่มเติมออกมาเป็นร้านอาหาร SPA Foods อีกหลายสาขาในกรุงเทพมหานคร

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มก่อตัวขึ้นในตัวผู้หญิงคนนี้ ที่เป็นคนรักสัตว์มาแต่ไหนแต่ไร ธีรนาฏเคยทดลองเลิกกินเนื้อสัตว์เป็นครั้งแรกสมัยอายุ 6 ขวบ เมื่อพบว่าเนื้อที่กำลังรับประทานอยู่นั้น มาจากสัตว์ที่เพิ่งเห็นว่ามันมีชีวิตอยู่เมื่อวาน ตั้งแต่วันนั้น เด็กหญิงธีรนาฏจึงหันมากินแค่ข้าวกับไข่ แต่ด้วยความที่วิธีกินแบบนี้ไม่ถูกหลักโภชนากษร ทำให้สุขภาพของเธอไม่สู้ดีนักจนกระทั่งป่วยหนัก จึงต้องกลับมากินอาหารตามปกติอีกครั้ง

ต่อมา เมื่อคุณแม่ของเธอป่วยด้วยโรคมะเร็ง และอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ ธีรนาฏจึงค้นหาสาเหตุของโรครวมถึงวิธีรักษาและป้องกัน จนพบว่าการกินอาหารสุขภาพสามารถป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคร้ายต่างๆ ได้ดีที่สุด โดยเฉพาะมะเร็ง

ครั้งนี้เองที่เธอหันหลังให้กับการกินเนื้อสัตว์อย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งศึกษาและพัฒนาอาหารจากถั่วเหลือง จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ SPA Foods (SPA-Soy Protein Advance) ออกสู่ท้องตลาด เพื่อให้คนอื่นๆ มีสุขภาพดีไปพร้อมกับเธอ

“ดิฉันทำงานเพื่อให้คนอื่นๆ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทุกงานที่ทำล้วนเกิดจากแพสชั่น โดยอาหารคือแพสชั่นที่รักที่สุด ทั้งที่ตัวเองทำกับข้าวไม่เป็น แถมยังเป็นกิจกรรมที่ไม่ชอบที่สุดอีกต่างหาก แต่เพราะเป็นคนชอบกินอาหารดี อาหารอร่อย จึงสามารถคิดเมนูอาหารใหม่ๆ มาบอกให้พ่อครัวแม่ครัวลงมือทำแทนได้”

“ทุกงาน” ที่ธีรนาฏหมายถึง ไล่มาตั้งแต่การดำรงตำแหน่งผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ประธานก่อตั้งบริษัท นูทรีชั่น เฮ้าส์ จำกัด รวมถึงกิจการอื่นๆ ที่งอกเงยขึ้นจากความตั้งใจดีของธีรนาฏเอง อาทิ บริษัทรักษาความปลอดภัย รวมถึงกิจการกำจัดขยะ อันมีจุดเริ่มต้นมาจากการบำบัดของเสียที่เกิดจากนิคมอุตสาหกรรมของเธอเอง

“ที่จริงดิฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำบริษัทรักษาความปลอดภัย แต่เพราะเห็นว่าคุณภาพชีวิตของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ทำงานให้เรานั้นย่ำแย่ เช่น สวมเครื่องแบบที่ไม่สะอาด ต้องเข้าเวรแบบควงกะ ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ ประสิทธิภาพในการทำงานจึงลดลง แถมยังได้ค่าแรงไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ประกอบกับเกิดวิกฤตทางการเงินเมื่อปี 2547 พอดี ทำให้เจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยหนีหายไป ดิฉันก็เลยรับมาทำเอง และรับผิดชอบพนักงานเดิมที่สมัครใจทำงานต่อไว้ทั้งหมด เช่นเดียวกับกิจการรับซื้อและกำจัดขยะ ที่เกิดจากการที่ดิฉันเป็นห่วงสิ่งแวดล้อม กลัวว่าบริษัทกำจัดขยะเจ้าอื่นจะเอาขยะจากนิคมของเราไปทำลายแบบไม่ถูกวิธี จนอาจส่งผลเสียต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม จึงคิดว่าลงมือทำเองมั่นใจกว่า”

ธีรนาฏย้ำว่า ทุกงานที่เธอลงมือทำไม่ใช่เพราะตัวเงิน แต่ทำเพราะความสุขมากกว่า

“ดิฉันทำงานทุกวันแทบจะตลอดเวลา ไม่แบ่งด้วยว่าเวลาไหนสำหรับงานไหน แต่ก็สามารถจัดสรรเวลาพักผ่อนไปในเนื้องานได้อย่างลงตัว เพราะงานบางอย่างสำคัญ แต่ทีมงานไม่ต้องการเวลาของเรามากนัก ในขณะที่บางงานสำคัญน้อยกว่า แต่เขาต้องการเวลาเราเยอะกว่า เราก็ต้องให้เวลากับงานนั้นมากกว่า เช่น ดิฉันให้เวลากับการดูแลงานร้านอาหารมากกว่างานนิคมฯ ซึ่งพื้นฐานหลักในการทำงานทุกอย่างคือ สิ่งที่เราทำต้องไม่ทำร้ายใคร และไม่ต้องมีใครมาบอกว่าเราดี เพราะเราอยากดีด้วยตัวเอง เราจึงกล้าพูดว่าเราใช้ของดีที่สุดในโลกมาสร้างสรรค์เป็นวัตถุดิบคุณภาพเท่านั้น”

ท้ายที่สุดแล้ว ทุกองค์ประกอบที่หลอมรวมอยู่ในตัวผู้หญิงเก่งคนนี้ เกิดจากแนวคิดเรียบง่าย ที่ใครก็สามารถนำไปทำตามได้ นั่นคือ การใช้ชีวิตตาม “หลัก 5 อ.” นั่นเอง

“อ. แรกคือ อาหาร เราต้องกินอาหารที่มีประโยชน์และได้คุณค่าจากสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งขณะกินอาหารก็ควรปฏิบัติควบคู่ไปกับอีกหนึ่ง อ. คือ อารมณ์ เราควรกินอาหารด้วยอารมณ์ที่ดี มีความสุขตอนกิน รวมถึงการใช้ชีวิตในตอนอื่นๆ ด้วยที่ต้องมีความสุขเป็นพื้นฐาน ตามมาด้วย การอยู่ในที่ที่อากาศดี ที่เราไม่ต้องมานั่งโทษว่ากรุงเทพฯ เต็มไปด้วยมลพิษ เพราะเราสามารถสร้างอากาศดีได้ด้วยตัวเอง อย่างการปลูกต้นไม้ในห้องตอนกลางวัน เพื่อให้ต้นไม้ช่วยเป็นร่มเงา ช่วยฟอกอากาศ และคายออกซิเจนให้กับเรา พอตอนกลางคืนค่อยนำต้นไม้ไปไว้นอกห้อง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ต้นไม้คายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา เป็นต้น เมื่อได้สูดอากาศดีๆ แล้วก็อย่าลืม ออกกำลังกาย เพื่อให้รางกายนำทั้งอาหารและอากาศไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประการสุดท้ายเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนละเลย นั่นคือ การขับถ่ายอุจจาระ เพื่อขจัดของเสียออกจากร่างกาย ทำได้เพียงเท่านี้ คุณก็มีชีวิตที่ดีและมีความสุขได้แล้ว” เรียบง่าย แต่ตอบโจทย์ สมกับซิกเนเจอร์ของธีรนาฏ โชควัฒนา






กำลังโหลดความคิดเห็น