บอร์ด รฟท.เคาะจัดจ้างบริษัทลูก "เอสอาร์ที แอสเสท" แบบเฉพาะเจาะจงบริหารทรัพย์สิน ตั้งกรอบค่าใช้จ่าย 4.5% หรือเฉลี่ย 180 ล้านบาท/ปี สั่งเร่งทำทีโออาร์และไทม์ไลน์การโอนสัญญาเช่า
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธาน เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2565 ได้มีมติเห็นชอบหลักการดำเนินการจ้าง บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ รฟท. บริหารสัญญาเช่าของ รฟท.โดยวิธีเฉพาะเจาะจง พร้อมทั้งเห็นชอบกำหนดอัตราผลตอบแทนให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท ที่ 4.5% โดยประเมินจากกรอบค่าบริหารจัดการด้านการบริหารทรัพย์สินของ รฟท.ในปัจจุบัน ในขณะที่คาดการณ์ว่าการบริหารจัดการโดยบริษัทลูกฯ จะทำให้มีประสิทธิภาพและรายได้เพิ่มมากขึ้นจาก 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี เป็น 5,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงแรก
หลังจากนี้จะเป็นการดำเนินการตามกระบวนการของ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ โดยจะต้องมีการเจรจาต่างๆ ทั้งเรื่องค่าจ้าง กระบวนการและระยะเวลาในการถ่ายโอนสัญญาให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน และจัดทำรายละเอียดไว้ในเงื่อนไขทีโออาร์ คาดว่า จะสามารถนำเสนอบอร์ด รฟท.เห็นชอบการลงนามสัญญาจ้างได้ภายในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. 2565 หรือในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2566
“หลักการ รฟท.จะโอนสัญญาที่มีและทรัพย์สินที่จะนำมาพัฒนาหารายได้ทั้งหมดให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท บริหารจัดการแทน ซึ่งปัจจุบัน รฟท.มีสัญญาเช่าที่พร้อมโอนประมาณ 4,000 สัญญา แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. สัญญาเช่าที่อยู่ภายใต้ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน 2. สัญญาที่อยู่ภายใต้ฝ่ายเดินรถ (สัญญาเช่าพื้นที่ย่านสถานี) ซึ่งมีจำนวนสัญญามากที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่แปลงย่อย 3. พื้นที่เแปลงใหญ่ ที่อยู่ในแผนที่จะมีการพัฒนาในอนาคต”
อย่างไรก็ตาม ประเมินมูลค่าทรัพย์สินและสัญญาเช่ากว่า 4,000 สัญญาที่ รฟท.จะถ่ายโอนให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท มีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยคิดเป็นค่าจ้างที่บริษัท เอสอาร์ที แอสเสทจะได้รับประมาณ 180 ล้านบาทต่อปี