xs
xsm
sm
md
lg

“เซ็นทรัล” ปูพรม ขุดทองเวียดนามแสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด - ‘เซ็นทรัล รีเทล’ รุกหนักเอาจริงตลาดเวียดนาม หลังจากประสบความสำเร็จทะยานสู่เบอร์ 1 ออมนิแชนเนลกลุ่มฟูด และพร็อพเพอร์ตี้ ในเวียดนาม เปิดแผน 5 ปีทุ่มงบลงทุน 30,000 ล้านบาท หวังดันยอดขายในเวียดนามทะยานสู่ 100,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี

“จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2555 ที่เซ็นทรัล รีเทล ได้เข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนาม เนื่องจากมองเห็นศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจของประเทศเวียดนาม ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของเซ็นทรัล รีเทล พิสูจน์ได้จากยอดขายในเวียดนามที่เริ่มต้นจากศูนย์ และเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกปี จนแตะ 38,592 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 10 ปี คิดเป็นสัดส่วนยอดขายของทั้งกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ถึง 22% ในปัจจุบัน”
 
นี่คือคำกล่าวของ มร.โอลิวิเยร์ แลงเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล
 
รีเทล เวียดนาม ที่สะท้อนถึงการเอาจริงเอาจังของกลุ่มเซ็นทรัลในตลาดค้าปลีกที่เวียดนามอย่างชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เซ็นทรัล รีเทล ก็คงเหมือนกลุ่มทุนต่างประเทศทั่วไปที่ค่อยๆ เริ่มจากธุรกิจหน่วยเล็กๆ ก่อนในเวียดนาม พอเห็นช่องทางจึงค่อยๆ ขยับขยายไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2555 ที่เซ็นทรัล รีเทล เข้าไปดำเนินธุรกิจในเวียดนาม เนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยเริ่มจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายแบรนด์สินค้าแฟชั่น ต่อมาจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือในปี 2558 ที่เซ็นทรัลรีเทลส่งธุรกิจในเครือเข้าร่วมทุนกับกลุ่มเหงียนคิม และลานชี มาร์ท ผู้ประกอบการรายใหญ่ของเวียดนาม
 
ส่งผลให้เซ็นทรัล รีเทล ในขณะนั้นเฟื่องฟูอย่างมาก ธุรกิจหลายอย่างได้รับความนิยมและได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนเวียดนาม ซึ่งแบรนด์ในเครือที่ไปเปิดในเวียดนามขณะนั้นก็เช่น ซูเปอร์สปอร์ต โรบินสัน บิ๊กซี ร้านครอคส์ ร้านนิวบาลานซ์ ยีนส์ลี เป็นต้น เพราะดูเหมือนจะเป็นของแปลกใหม่ที่น่าดึงดูด ซึ่งคนเวียดนามเองก็พอมีกำลังซื้อไม่น้อย ถึงขั้นที่ว่าเซ็นทรัลรีเทลช่วงนั้นมีเครือข่ายในเวียดนามเป็นร้านค้ามากถึง 85 แห่ง กระจายอยู่ใน 15 จังหวัด และมีพื้นที่ขายสุทธิอยู่ที่ประมาณ 170,000 ตร.ม. ซึ่งนับว่าไม่น้อยเลย
 
เซ็นทรัล รีเทล ขยายอาณาจักรไม่หยุด ทั้งประเภทธุรกิจค้าปลีกใหม่ๆ หรือการนำแบรนด์ใหม่ๆ เข้าไปเปิด โดยช่วงที่เฟื่องฟูสุดขีดคือปี 2563 ที่เซ็นทรัล รีเทล สามารถกระจายธุรกิจในเวียดนามได้แล้วมากถึง 39 จังหวัด จากทั้งหมด 63 จังหวัดของเวียดนาม ประกอบด้วย ศูนย์การค้ามากถึง 35 แห่ง, ร้านค้าปลีกต่างๆ มากถึง 230 ร้านค้า, มีพื้นที่ค้าปลีกสุทธิมากถึง 1,080,000 ตารางเมตร มีพนักงานรวมกว่า 15,000 คน และมียอดลูกค้าเข้าใช้บริการในทุกเครือข่ายทั้งหมดรวมกันมากกว่า 175,000 คนต่อวัน และไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า เซ็นทรัล รีเทล คือผู้ประกอบการด้านค้าปลีกจากต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามบนที่มีฐานลูกค้ากว่า 12 ล้านคน จากประชากรเวียดนามทั้งประเทศมากกว่า 95 ล้านคน


มร.โอลิวิเยร์ แลงเล็ต กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจมาตลอด 10 ปี ปัจจุบันเซ็นทรัล รีเทล เป็นเบอร์ 1 ทั้งในด้านไฮเปอร์มาร์เกต และผู้นำด้านศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศเวียดนาม ครอบคลุม 40 จังหวัดทั่วประเทศ คิดเป็น 85% ของ GDP เวียดนาม และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งกว่า 12 ล้านคน พร้อมกันนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังได้สร้างแพลตฟอร์มออมนิแชนเลที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนาม โดยต่อยอดจากโมเดลที่ประสบความสำเร็จในไทย ทำให้ปัจจุบันยอดขายผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชนเนลคิดเป็นสัดส่วนกว่า 8% ของยอดขายทั้งกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม

นอกจากนี้ยังได้นำแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยอย่าง Tops market มาขยายในเวียดนาม เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ ถือเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจกลุ่มฟูด และทำให้เซ็นทรัล รีเทล ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มไฮเปอร์มาร์เกตของเวียดนามถึง 62% พร้อมทั้งเดินหน้าขยายธุรกิจกลุ่มนอนฟูดและพร็อพเพอร์ตี้ควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง

“จนทำให้วันนี้ เซ็นทรัล รีเทล กลายเป็นผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนามอย่างเต็มภาคภูมิ” มร.โอลิวิเยร์กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หากไล่ย้อนดูถึงอดีตด้านการเติบโตในตลาดเวียดนามของเซ็นทรัล รีเทล พบว่าตั้งแต่ปี 2556-2560 มีอัตรการเติบโตด้านรายได้เฉลี่ยที่ 340% จากฐานรายได้เริ่มต้นปีแรกที่มีเพียง 120 ล้านบาทเมื่อปี 2555 กระทั่งถึงปี 2560 มีรายได้ 44,800 ล้านบาท

ขณะที่สัดส่วนรายได้ในเวียดนามก็มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและเริ่มชัดเจนเมื่อปี 2560 เซ็นทรัล รีเทล มีสัดส่วนรายได้จากประเทศไทยที่เป็นตลาดหลักอยู่แล้วประมาณ 72%, สัดส่วนยอดขายมาจากยุโรปประมาณ 15% และสัดส่วนรายได้จากประเทศเวียดนามประมาณ 13%

ส่วนปี 2561 ยอดขายรวมของเซ็นทรัลรีเทลมีประมาณ 240,297 ล้านบาท มาจากจุดขายรวมทั้งในไทย อิตาลี และเวียดนาม 3,936 สาขา มีฐานลูกค้ารวม 27 ล้านราย จาก 3 กลุ่มหลัก คือ 1. กลุ่มอาหาร สัดส่วนรายได้ 43%, 2. กลุ่มแฟชั่น สัดส่วนรายได้ 35% และ 3. กลุ่มฮาร์ดไลน์ สัดส่วนรายได้ 22%

โดยที่สัดส่วนรายได้ยังคงมาจากประเทศไทยเป็นหลักมากกว่า 77% โดยมีเวียดนามแซงหน้าตลาดอื่นและขยับขึ้นมาเป็นที่ 2 ได้แล้วด้วยสัดส่วนมากกว่า 15% หรือเพิ่มจากเดิมปี 2560 ประมาณ 2% และอิตาลี ประมาณ 8%

เวียดนาม จึงกลายเป็นแหล่งขุดทองมหาศาลของเซ็นทรัลรีเทล ซึ่งถือเป็นตลาดหลักแห่งหนึ่งในตลาดต่างประเทศทั้งหมดที่เซ็นทรัลเข้าไปลงทุนไม่ว่าจะเป็น อิตาลี เยอรมนี และอื่นๆ

เวียดนามถือเป็นประเทศที่น่าจับตามองประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นตลาดหลักในกลุ่มซีแอลเอ็มวี /CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม)

การเดินหน้าของเซ็นทรัล รีเทล จึงวางแผนไว้อย่างรัดกุมด้วยยุทธศาสตร์การเดินทัพ และการลงทุนต่างๆ โดยวาง 3 กลยุทธ์หลัก เพื่อมุ่งไปสู่ 4 เป้าหมายความสำเร็จในอีก 5 ปีข้างหน้า


มร.โอลิวิเยร์กล่าวว่า ทั้งนี้ ภายในปี 2569 เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม พร้อมทุ่มงบลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความสำเร็จ 4 ข้อ คือ

1. ก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 แพลตฟอร์มออมนิแชนเนลในกลุ่มฟูด และพร็อพเพอร์ตี้ของเวียดนาม
2. ผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านบาท
3. เพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออมนิแชนเนลโต 2 เท่า เป็น 15%
4. ขยายธุรกิจให้ครอบคลุม 55 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนามจากทั้งหมด 63 จังหวัด

โดยเซ็นทรัล รีเทล ได้วาง 3 กลยุทธ์สำคัญ ตามกรอบยุทธศาสตร์ CRC Retailligence เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ประกอบด้วย
1. เดินหน้าปูพรม และขยายธุรกิจหลักครอบคลุมทั่วประเทศ เช่น การขยายจำนวนร้านค้าในกลุ่มฟูด ควบคู่ไปกับการขยายและยกระดับศูนย์การค้า GO! ให้ทันสมัย, เปิดตัวสินค้า Private Label เพื่อตอบโจทย์ความคุ้มค่าคุ้มราคาให้แก่ผู้บริโภค และพัฒนาโปรเจกต์มิกซ์ยูส เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ เป็นต้น

2. พัฒนาช่องทางออมนิแชนเนล สะท้อนความเป็นผู้นำค้าปลีกแห่งอนาคต เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มออมนิแชนเนลอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับแพลตฟอร์มให้สมบูรณ์แบบ และสามารถมอบประสบการณ์ชอปปิ้งที่ดีที่สุด และไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้า พร้อมตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออมนิแชนอนลโต 2 เท่า เป็น 15%

3. ต่อยอดธุรกิจโมเดลใหม่ๆ และไม่หยุดมองหาโอกาสในการเติบโต พัฒนาธุรกิจเพื่อขยายฐานผู้บริโภค และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าชาวเวียดนามในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนมุ่งหน้ามองหาโอกาส M&A เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ และเพิ่มสปีดในการขยายธุรกิจ พร้อมทั้งวางประเทศเวียดนามให้เป็นแหล่งวัตถุดิบและจัดหาสินค้าให้กับธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล ในประเทศไทยอีกด้วย

“ตลอด 10 ปีของการก่อตั้งอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม เราโตอย่างก้าวกระโดด และแข็งแกร่ง อันเป็นผลลัพธ์จากการทำธุรกิจบนวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในทุกประเทศที่เราดำเนินธุรกิจ เช่นเดียวกับประเทศเวียดนามที่เซ็นทรัล รีเทล ได้ร่วมพัฒนาชุมชน สังคม และเศรษฐกิจ ผ่านการจ้างงานชาวเวียดนาม และช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่”

ขณะเดียวกัน เรายังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ และความร่วมมืออันดีระหว่างประเทศไทยกับเวียดนาม รวมถึงเชื่อมการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การโปรโมตเทศกาล Thai Festival ที่ Tops market ในเวียดนาม, การจัดงาน Taste of Vietnam ในประเทศไทย และการจัดให้มี Business Matching เพื่อช่วยส่งเสริม SME ของทั้งสองประเทศให้ได้มาเจรจาธุรกิจร่วมกัน พร้อมทั้งสนับสนุนการนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อวางจำหน่ายในเครือข่ายธุรกิจของทั้งสองประเทศอีกด้วย

“ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบนเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งทำธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืนในทุกด้าน อันจะเป็นหัวใจสำคัญที่ติดตามไปในทุกพื้นที่ที่ธุรกิจของเราเติบโต” มร.โอลิวิเยร์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น