บอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ จ่อชง กพช.หั่นงบใช้จ่ายเงินปี 2563-67 หมื่นล้านบาทเหลือวงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาทหรือเฉลี่ยปีละหมื่นล้านบาท พร้อมปรับสัดส่วนใช้เงินสำหรับแผนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเป็น 50% จากเดิม 67% พลังงานทดแทน 47% จากเดิม 30% ตั้งคณะอนุฯ 4 ชุดทำงานร่วม เตรียมเร่งเปิดให้เอกชนยื่นเสนอโครงการประเดิมงบปี 63 ต้น ธ.ค.นี้ ส่วนหนึ่งพร้อมหนุนโรงไฟฟ้าชุมชนเน้นผลิตไฟใช้เองเป็นหลัก
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันนี้ (10 ต.ค.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบปรับปรุงแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขการใช้จ่ายเงินกองทุนฯปีงบประมาณ 2563-2567 จากเดิมวงเงินรวม 60,000 ล้านบาทเป็นเหลือ 50,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 10,000 ล้านบาทจากเดิมเฉลี่ยปีละ 12,000 ล้านบาท พร้อมกับการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 4 คณะเข้ามาช่วยงานกองทุนฯ โดยทั้งหมดจะเสนอเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเห็นชอบภายในปลายเดือน ต.ค.นี้
"วงเงินที่ลดลงมาจากการจัดเก็บรายได้เข้ากองทุนอนุรักษ์ฯ จากผู้ใช้น้ำมันที่ปรับลดลงช่วงปี 2561-63 จากก่อนหน้านี้เก็บเงิน 25 สตางค์ต่อลิตรเหลือ 10 สตางค์ต่อลิตร จึงต้องปรับให้สอดรับกับรายได้ภาพรวม ซึ่งการใช้งบปี 63 จะมีการเปิดให้ใช้เงินได้ต้นธันวาคมนี้หลังจากที่ล่าช้า" นายสนธิรัตน์กล่าว
สำหรับสัดส่วนการใช้จ่ายเงินจะปรับให้สอดรับกับปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนไป เช่น แนวโน้มแผนพลังงานทดแทนที่มีสัดส่วนสูงกว่าแผนเพิ่มประสิทธิภาพ มีการยื่นเสนอโครงการด้านพลังงานสูงกว่า ฯลฯ ดังนั้นจึงปรับให้การใช้เงินในส่วนของแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานจากเดิมสัดส่วน 67% เหลือ 50% แผนพลังงานทดแทนเป็น 47% จากเดิม 30% ส่วนการใช้เงินในแผนบริหารจัดการของสำนักงานกองทุนฯ คงเดิม 3%
ทั้งนี้ เงินกองทุนอนุรักษ์ฯ ส่วนหนึ่งจะนำไปส่งเสริมให้กับโรงไฟฟ้าชุมชนซึ่งถือเป็นพลังงานทดแทน โดยจะมุ่งเน้นโรงไฟฟ้าชุมชนขนาดเล็ก เน้นผลิตไฟใช้เองเป็นหลัก แต่วงเงินสนับสนุนจะเป็นอย่างไรคงไม่สามารถตอบได้ขึ้นอยู่ว่าจะมีโครงการมากน้อยเพียงใด
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจำนวน 4 คณะเพื่อช่วยคณะกรรมการกองทุนฯปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับกำหนดไว้ ได้แก่ 1. คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 2. คณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 3. คณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการภายใต้กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและ 4. คณะอนุกรรมการบริหารสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งจะทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น