ปตท.ลั่นปีหน้าผลดำเนินงานดีขึ้น เหตุธุรกิจน้ำมันกลับสู่ปกติหลังได้รับอานิสงส์มาตรการ IMO และตลาดเออีซีโตต่อเนื่อง ส่วนโครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 รอรัฐตัดสินใจ
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการบริษัท ปตท.ในปี 2563 จะดีขึ้นกว่าปีนี้ เนื่องจากกลุ่มธุรกิจน้ำมันเริ่มกลับมาเป็นปกติ หลังจากองค์การทางเรือระหว่างประเทศ (IMO) ออกมาตรการให้สายการเดินเรือระหว่างประเทศใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีกำมะถันต่ำจากเดิม 3.5% เหลือ 0.5% มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 2563 แม้ว่าผลกระทบจากสหราชอาณาจักรออกจากอียู (Brexit) จะเริ่มเห็นในช่วง ต.ค.-พ.ย.นี้ แต่เป็นผลกระทบต่อยุโรปส่วนเอเชียได้รับผลกระทบเล็กน้อย ขณะที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ยังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจดีอยู่ทำให้มีความต้องใช้น้ำมันและปิโตรเคมี โดยกลุ่ม ปตท.ได้มีทำธุรกิจในเออีซีก็ได้รับผลดีตามไปด้วย
ส่วนผลประกอบการในปี 2562 จะต่ำกว่าปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 2.36 ล้านล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.19 แสนล้านบาท แต่ก็เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2562 มีผลดำเนินงานดีขึ้นกว่า 6 เดือนแรกปีนี้ เนื่องจากขณะนี้มีการเร่งกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อเทศกาลปีใหม่ ทำให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบ (สเปรด) น้ำมันดีขึ้น รวมทั้งสเปรดปิโตรเคมีก็เริ่มดีขึ้นหลังจากช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนทำให้ความต้องการใช้ปิโตรเคมีลดลง รวมทั้งครึ่งปีหลังนี้ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุง นับเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น จึงอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล อัตรา 0.90 บาท/หุ้น
สำหรับความคืบหน้าการร่วมลงทุนโครงการท่าเทียบเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ 3 ปตท.เตรียมเจรจากับภาครัฐในการรื้อถอนหรือเปลี่ยนเส้นทางท่อส่งน้ำมันและท่อก๊าซฯ ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา (ไฮสปีดเทรน) เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคน้ำมันและภาคอุตสาหกรรม
ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ก็คงต้องรอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกว่าจะดำเนินการอย่างไร หลังจากศาลปกครองกลางได้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ที่ 1 ที่ให้กลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี (NCP) ที่ไม่ผ่านการประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 ซองคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอโครงการฯ โดยให้มีผลนับแต่วันที่ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา และให้คำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการฯ ที่ให้กิจการร่วมค้า เอ็นซีพี เป็นผู้ไม่ผ่านการประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่ง ปตท.เห็นว่าการมีคู่แข่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย และรัฐได้ประโยชน์