xs
xsm
sm
md
lg

“วีรศักดิ์” สั่งลุยพัฒนา “สมาร์ทโชวห่วย” ตั้งเป้า 1 หมื่นแห่งภายในปี 63

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“วีรศักดิ์” ตรวจเยี่ยมร้าน “โชวห่วย” และ “ร้านค้าส่ง” คนไทยในจังหวัดนครราชสีมา รับฟังปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ พบปัญหาเหมือนๆ กัน ขาดระบบการบริหารจัดการร้าน ระบบตรวจเช็กสต๊อก เงินทุน สั่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าถือเป็นวาระหลัก ต้องเร่งผลักดันเป็น “สมาร์ทโชวห่วย” ตั้งเป้า 1 หมื่นแห่งภายในปี 63

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการร้านโชวห่วยและร้านค้าส่งในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อมารับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของร้านค้าด้วยตนเอง ก่อนที่จะนำความเห็นไปดำเนินการช่วยเหลือให้เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เพราะการสร้างความเข้มแข็งให้กับร้านโชวห่วยเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจท้องถิ่น และยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนการใช้เงินในระดับภูมิภาค ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง สามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมเมืองกับสังคมท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผลักดันให้เป็นวาระหลักที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยเข้าไปให้การสนับสนุนส่งเสริม เพิ่มพูนทักษะความรู้ด้านการจัดการบริหารร้านค้า และให้การช่วยเหลือด้านอื่นๆ อย่างเต็มที่แล้ว

ในการตรวจเยี่ยม ร้านพูนทรัพย์มินิมาร์ท ต.หมื่นไวย อ.เมือง ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกต้นแบบในหมู่บ้านที่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นร้านสมาร์ทโชวห่วยแห่งแรกใน ต.หมื่นไวย เป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่จำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งจากการพูดคุยพบว่าปัญหาส่วนใหญ่ของร้านโชวห่วย คือ ไม่มีระบบการบริหารจัดการร้านค้าที่ดี การจัดร้านไม่เป็นระเบียบทำให้ลูกค้าหาสินค้าลำบาก ไม่มีระบบการตรวจเช็กสต๊อกสินค้าทำให้บางครั้งสินค้าที่ซื้อมาจำหน่ายมีมากเกินความจำเป็นหรือสินค้าหมดอายุ และที่สำคัญคือ ไม่สามารถจัดโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าในร้านได้ โดยหลังจากที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นร้านสมาร์ทโชวห่วยที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการร้านค้า ทำให้ยอดขายในร้านเพิ่มขึ้นต่อเดือนประมาณ 10-15% ลูกค้าหาสินค้าได้ง่ายมากขึ้น บริหารสต๊อกสินค้าเป็นระเบียบมากขึ้น อีกทั้งได้ร่วมมือกับซัปพลายเออร์รายใหญ่ในการจัดโปรโมชันส่งเสริมการขาย เช่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อสินค้าครบ 99 บาท แถมกระเป๋า เป็นต้น ทำให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในร้านเพิ่มมากขึ้น

ส่วนการตรวจเยี่ยมร้านวงศ์มังกรซุปเปอร์สโตร์ ต.ในเมือง อ.เมือง ซึ่งเป็นร้านค้าส่งสินค้าอุปโภค-บริโภคขนาดใหญ่ เป็นกิจการของคนไทย 100% และเป็นร้านค้าส่งที่ได้รับการพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์ มีเครือข่ายที่เป็นร้านค้าปลีกและร้านโชวห่วยประมาณ 500 ร้านค้าทั้งในและนอกอำเภอเมือง ซึ่งจากการพูดคุย พบว่าปัญหาส่วนใหญ่จะคล้ายๆ กับร้านโชวห่วย คือ ไม่มีระบบการบริหารจัดการร้านค้าที่ดี ไม่มีระบบการบริหารสต๊อกสินค้า และปัญหาด้านเงินทุนสำหรับสั่งซื้อสินค้าเข้าร้าน ซึ่งปัจจุบันทางร้านได้มีการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการร้านค้า และมีระบบโลจิสติกส์ดีลิเวอรีที่พร้อมจะนำสินค้าไปส่งให้ร้านค้าปลีกรายย่อย โดยที่เจ้าของร้านไม่ต้องเดินทางมาที่ร้าน พร้อมทั้งเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ร้านโชวห่วยที่เป็นเครือข่าย ทำให้มีลูกค้าที่เป็นร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เป็นร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าให้แก่คนในท้องถิ่นด้วย ทำให้เข้าใจร้านค้าปลีกและร้านโชวห่วยในพื้นที่ต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันทางการค้าที่รุนแรงมากขึ้น

“ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งสรุปปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะที่ได้รับ พร้อมหามาตรการสนับสนุนส่งเสริมร้านค้าปลีก-ค้าส่งโดยเร็ว โดยให้เน้นความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมชัดเจน เกิดภาคีเครือข่ายธุรกิจ และสามารถผลักดันให้ธุรกิจโชวห่วยก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง ในรูปแบบ “จับมือพันธมิตร ติดปีกโชวห่วยไทย” โดยได้ตั้งเป้าหมายผลักดันร้านโชว์ห่วยเป็นสมาร์ทโชวห่วยให้ครบ 10,000 แห่ง ภายในปี 2563 ซึ่งจะให้ทำให้ร้านโชวห่วยมีความแข็งแกร่ง และอยู่คู่สังคมไทยไปอีกนาน” นายวีรศักดิ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น