xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด” สั่ง ก.อุตฯ จัดทัพโรดโชว์ดึงลงทุนอัดงบฯ โฟกัสเอสเอ็มอี-ดันไบโอฮับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สมคิด” มอบนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรมจัดทัพร่วมบีโอไอ โรดโชว์ดึงการลงทุนต่างชาติเข้าไทย หวั่นเวียดนามแซงหน้า พร้อมให้อัดฉีดงบประมาณให้โฟกัสพัฒนาเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ เกษตรแปรรูป สั่งปรับสิทธิประโยชน์ดันคลัสเตอร์ไบโอฮับ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม วันนี้ (14 ส.ค.) ว่า ได้ขอให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม จัดตั้งทีมงานทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาไทยเนื่องจากขณะนี้การลงทุนเริ่มย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนามมากขึ้นไทยจำเป็นต้องปรับตัวก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นเวียดนามอาจแซงไทยได้ ดังนั้น สิทธิประโยชน์การลงทุนจะต้องปรับให้เหมาะสม


“เมื่อเร็วๆ นี้ทางอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้เข้าหารือ เขามองว่าไทยเป็นแกนและผู้นำในภูมิภาคนี้ หลังจากที่ได้ผลักดันข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศลุ่มแม่น้ำอิระวะดี-เจ้าพระยา-แม่โขงหรือ ACMECS ซึ่งสหรัฐฯ ต้องการโปรโมตยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก หลังจากที่จีนเองมี หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (One Belt, One Road) ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความสนใจไทยมากขึ้นจึงควรใช้จังหวะนี้ในการดึงการลงทุนและก้าวข้ามเวียดนามให้ได้” นายสมคิดกล่าว

นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งมีงบประมาณดำเนินการค่อนข้างต่ำ 5,000 ล้านบาทเพราะเสนอโครงการเดิมๆไม่ปรับใหม่จำเป็นต้องปรับการทำงานให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยหันมาพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) และผู้ประกอบการรายใหม่ (สตาร์ทอัพ) ที่เน้นนวัตกรรมโดยการทำงานร่วมกับบ.อินโนสเปซ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือไทยแลนด์ ไซเบอร์พอร์ต พร้อมกันนี้จะต้องมุ่งการพัฒนาให้เชื่อมโยงกับเกษตรแปรรูปเพิ่มมูลค่าและธุรกิจบริการโดยเฉพาะการขับเคลื่อนไปสู่คลัสเตอร์อุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพเพื่อก้าวสู่ศูนย์กลางภูมิภาค หรือ Bio Hub

ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะต้องทำงานร่วมบีโอไอใกล้ชิดที่จะดึงการลงทุนเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจชีวภาพเพื่อยกระดับสินค้าเกษตรโดยเฉพาะอ้อย ปาล์ม ซึ่งบีโอไอต้องปรับแพคเกจส่งเสริมการลงทุนให้เป็นรูปแบบคลัสเตอร์ที่ไม่ได้มองการดึงลงทุนเฉพาะธุรกิจคนไทยแต่ต้องมองต่างประเทศเข้ามาร่วมด้วย ขณะเดียวกัน ในส่วนของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จะต้องปรับบทบาทการพัฒนาพื้นที่รองรับการลงทุนของเอสเอ็มอีโดยเฉพาะนิคมฯในเขตพื้นที่อีอีซีซึ่งนิคมฯ ของเอกชนมีการยกระดับที่มุ่งรองรับการลงทุนขนาดใหญ่ทำให้เอสเอ็มอีไม่อาจเข้าไปเช่าดำเนินธุรกิจได้เพราะราคาค่าเช่าสูงขึ้นมาก

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงฯ เตรียมที่จะพิจารณาไปโรดโชว์เพื่อดึงการลงทุนร่วมกับบีโอไอซึ่งคาดว่าจะเริ่มไปยังประเทศจีนก่อนภายในเดือน ก.ย.นี้ และพร้อมที่จะมุ่งเน้นการนำงบประมาณที่ล่าสุดกระทรวงฯได้ยื่นขอต่อสำนักงบประมาณปี 2563 วงเงินราว 14,000 ล้านบาทมาใช้ที่มุ่งโฟกัสการพัฒนาเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ และเกษตรแปรรูปตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรี


“เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทางรองนายกฯ พร้อมที่จะเจรจาในเรื่องงบประมาณให้กระทรวงอุตสาหกรรมที่ปกติจะได้รับเฉลี่ยเพียง 5,000 ล้านบาทเท่านั้น” นายสุริยะกล่าว

สำหรับกรณีเหมืองทองคำชาตรีของ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ทางบ.คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ผู้ได้ติดต่อมา เพื่อขอเจรจากับทางกระทรวงอุตสาหกรรม ก่อนที่จะขึ้นศาลในวันที่ 18 พ.ย. 2562 นี้ ซึ่งตนจะมีการหารือกับทางกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ในวันที่ 15 ส.ค. 2562 ก่อน


“แม้ว่าขณะนี้ข้อพิพาทดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการแล้ว แต่การติดต่อมาแบบนี้ผมว่าถือเป็นสัญญาณที่ดีที่เราจะได้เปิดโอกาสได้หารือเจรจากันก่อนที่จะขึ้นศาล เพราะทั้งสองฝ่ายก็ไม่อยากให้ไปถึงขั้นนั้น หลังจากตรวจเยี่ยม กพร.แล้วก็จะนำเรื่องนี้มาคุย ว่าเราจะเจรจากับคิงส์เกตอย่างไร จากนั้นก็จะนัดวันอีกครั้ง”
กำลังโหลดความคิดเห็น