“จุรินทร์” สั่งลุย 10 ภารกิจเร่งด่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ชู “ประกันรายได้” เรื่องด่วนสุด เล็งนำร่อง “ปาล์ม-ยางพารา” ตามด้วยการดูแลค่าครองชีพ ผลักดันส่งออก และเจรจาการค้าค้างท่อ พร้อมเร่งเพิ่มสินค้า GI ดันสมาร์ทโชวห่วย พัฒนาธุรกิจบริการ สร้างเศรษฐกิจใหม่ และนำเทคโนโลยีช่วยลดต้นทุนทำธุรกิจ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อมอบนโยบายการทำงานให้แก่ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ว่า ที่ประชุมได้ร่วมกันกำหนดทิศทางการทำงานของกระทรวงพาณิชย์นับจากนี้ไป โดยได้ข้อสรุปที่จะดำเนินการใน 10 ภารกิจเร่งด่วนที่จะนำมาใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร ประชาชน ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ
เรื่องแรก ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะดำเนินการ คือ โครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 รายการ ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด โดยจะเริ่มที่ปาล์มน้ำมัน และยางพารา ก่อนไปตัวอื่นๆ เรื่องที่ 2 การดูแลราคาสินค้าและบริการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค เรื่องที่ 3 การเร่งรัดการส่งออก โดยจะเน้นรักษาและขยายตลาดเดิม เปิดตลาดใหม่ ฟื้นตลาดเก่า และมุ่งขยายการค้าชายแดนและผ่านแดน เรื่องที่ 4 เร่งรัดการเจรจาค้างท่อ เช่น การผลักดันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ให้จบปีนี้ การฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) การทำ FTA กับตุรกี ศรีลังกา ปากีสถาน และอังกฤษ รวมถึงการหาข้อสรุปการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP)
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ 5 ขอให้เดินหน้าระบบ e-filing เพื่อให้การจดทะเบียนและการให้บริการงานของกระทรงงพาณิชย์มีความง่าย สะดวก เรื่องที่ 6 การจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการเพิ่มสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้มีจำนวนมากขึ้น เรื่องที่ 7 การผลักดันเศรษฐกิจสมัยใหม่ เช่น ดิจิทัล, ไบโออีโคโนมี, กรีนอีโคโนมี, แชริ่งอีโคโนมี, ครีเอทีฟอีโคโนมี และการค้าออนไลน์ ให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เรื่องที่ 8 การผลักดันค้าปลีกรายย่อย (โชวห่วย) เป็นสมาร์ทโชวห่วย เรื่องที่ 9 การส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ เช่น ร้านอาหาร สปา ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ภาพยนตร์ และอื่นๆ และเรื่องที่ 10 การมีกลไกขับเคลื่อนงาน เช่น การประชุมระดับกระทรวงเดือนละ 1 ครั้ง, การประชุม กรอ.พาณิชย์ เพื่อขับเคลื่อนส่งออกและคุ้มครองผู้บริโภค, การประชุม 3 ประสาน เพื่อดูแลเรื่องสินค้าเกษตร และการใช้กลไกทูตพาณิชย์ เป็นทัพหน้าส่งเสริมและสนับสนุนเอกชนในการส่งออก และใช้พาณิชย์จังหวัดสนับสนุนผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาค
“ก่อนที่จะออกมาเป็นนโยบายการทำงานทั้ง 10 เรื่อง ผม ปลัดกระทรวง อธิบดีกรมต่างๆ และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ได้ตกลงที่จะเดินหน้าทำงานไปด้วยกัน ส่วนเรื่องเร่งด่วนจะเร่งรัด 4 เรื่องแรก คือ การประกันรายได้ ดูแลค่าครองชีพ ผลักดันส่งออก และเจรจาการค้า เพราะเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่จะทำควบคู่กันไปกับเรื่องที่เหลืออื่นๆ” นายจุรินทร์กล่าว