xs
xsm
sm
md
lg

“การบินไทย” ยันแผนซื้อเครื่องบิน 38 ลำชง “ถาวร” มั่นใจแผนฟื้นฟูทำกำไรปี 65

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ถาวร” ตั้งทีมดูแผนฟื้นฟูการบินไทย มั่นใจพลิกมีกำไรในปี 65 นัดถกแผนซื้อเครื่องบินใหม่ 38 ลำ 1.5 แสนล้าน ก่อนดันเข้า ครม. พร้อมสั่งเพิ่มสินค้าโอทอปใน e-Commerce บนเครื่องการบินไทย

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมแนวทางการแก้ปัญหาขาดทุน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ว่า ปัจจุบันการบินไทยอยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ซึ่งมีเป้าหมายสร้างรายได้ ลดรายจ่าย และกำไรอย่างยั่งยืน ด้วยบริการที่ดีขึ้น ภายใต้โครงการ “มนตรา” และเป็นสายการบินแห่งชาติที่มีบริการที่ดีเลิศด้วยเสน่ห์ความเป็นไทย กลับไปเป็นสายการบินยอดเยี่ยม 1 ใน 5 ของโลกเหมือนเดิม

สำหรับการจัดหาเครื่องใหม่นั้น จะให้การบินไทยนำรายละเอียดมาหารืออีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพราะการฟื้นฟูองค์กรจะต้องมีการวางแผนที่ดี (Plan) การจัดซื้อเครื่องบิน (Buy) และการบริการด้านการบิน (Fly) และเพื่อให้การแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อประสานข้อขัดข้อง และทำงานร่วมกัน

“การบินไทยต้องเน้นเรื่องบริการ และมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น และเพิ่มรายได้จากธุรกิจเสริม เช่น ครัวการบิน ส่วนแผนปฏิบัติในโครงการ “มนตรา” นั้น เท่าที่นำเสนอน่าพอใจและมั่นใจว่าทั้งการบินไทยและไทยสมายล์จะมีผลสำเร็จ มีกำไรยั่งยืนในปี 2565 ก่อนที่แผนฟื้นฟูกำหนดในปี 2567แน่นอน” นายถาวรกล่าว

สั่งเพิ่มสินค้าโอทอปบนธุรกิจ e-Commerce เครื่องการบินไทย

นายถาวรกล่าวว่า การบินไทยจะทำธุรกิจ e-Commerce บนเครื่อง จะเริ่มในเดือน พ.ย. 2562 ซึ่งได้ให้นโยบายในการนำสินค้าโอทอปของไทยที่มีความโดดเด่น มีคุณภาพ ร่วมเป็นคู่ค้าการจำหน่ายด้วย ซึ่งอย่างช้าควรเริ่มช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2563 ซึ่งจะช่วยโปรโมตสินค้าไทยและช่วยเพิ่มรายได้อีกทาง

ด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวว่า การบินไทยอยู่ระหว่างทบทวนโครงการจัดหาเครื่องบิน ปี 2562-2569 จำนวน 38 ลำ วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เนื่องจากมีการเปลี่ยนรัฐบาล เรื่องจึงถูกส่งกลับมา ซึ่งจะเร่งนำแผนเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาและเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป โดยยังคงแผนจำนวนและวงเงินเดิม แต่อาจจะปรับปรุงในเรื่องเครื่องยนต์สำรองให้สอดคล้องกับความเห็น สศช.

“จำนวนไม่เพียงพอ มีอายุมาก ประสิทธิภาพสู้คู่แข่งไม่ได้ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดลดลง เป็นกับดักในการบริการของการบินไทยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการบินไทยอยู่ระหว่างดำเนินการแผนฟื้นฟูที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบแล้ว”

สำหรับการดำเนินธุรกิจ e-Commerce บนเครื่องซื้อผ่านออนไลน์ เป็นตลาดกลาง หรือ Marketplace ซึ่งเดิมตั้งเป้าจะเริ่มในเดือน ก.ย. 2562 ปรับแผนเริ่มในเดือน พ.ย. 2562 จะสร้างรายได้สำคัญในอนาคตให้การบินไทย ทั้งนี้ ได้รับนโยบายในการนำสินค้าโอทอปเข้ามาร่วม ซึ่งจะเร่งเขียนโครงการในเรื่องการคัดเลือกสินค้า รูปแบบการนำเสนอ และการจัดส่ง และข้อจำกัดในการนำเข้าไปแต่ละประเทศ เป็นต้น เพื่อให้จัดสินค้าที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของชาวต่างชาติ โดยจะสามารถดำเนินการในเฟส 2 หลังเปิดตัวในเดือน พ.ย. ประมาณ 4-5 เดือน

“อยากให้หน้าร้านของการบินไทยเฟสแรกนิ่งเสียก่อน และมีเวลาในการเตรียมความพร้อมของสินค้าโอทอปด้วย เนื่องจากต้องหารือร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย”

นายสุเมธกล่าวว่า การบินไทยได้ปรับการบริการเรื่อง Ground to Sky แบบไร้รอยต่อ เชื่อว่าผู้โดยสารจะมีความพอใจและกลับมาใช้บริการเพิ่ม นอกจากนี้ ยังเน้นเรื่องดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน โดยจะปรับเปลี่ยนทั้งระบบ และองค์กร โดยจะมุ่งการตลาดดิจิทัลที่มีความทันสมัย การนำเสนอสินค้ามีรูปแบบเป็นดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงปรับระบบการขายเอเยนต์และดิจิทัลให้แข่งขัน

ส่วนการเพิ่มบริการ ‘Preferred Seat’ เปิดขายที่นั่ง Economy แถวหน้าสุดของแต่ละโซน วันแรก 27 ก.ค.ที่ผ่านมามีรายได้จากการเปลี่ยนที่นั่งส่วนนี้ 1-2 แสนบาท ถือว่าจะเป็นบริการที่สร้างรายได้ในระยะยาว และเป็นบริการมาตรฐานเช่นเดียวกับสายการบินอื่น


กำลังโหลดความคิดเห็น