ปตท.ลั่นพร้อมเซ็นสัญญาขายก๊าซฯ ป้อนโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง 2 โรง รวม 1.4 พันเมกะวัตต์ของราชกรุ๊ป คาดภายใน 30 วันหลังได้หนังสือนำส่งสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA)
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.มีความพร้อมที่จะลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ (Gas Sales Agreement) กับบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ( RATCH) หลังจากราช กรุ๊ป ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง ต.หินกอง อ.เมืองฯ จ.ราชบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะหากเซ็น PPA เรียบร้อยแล้วก็เชื่อว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะดูรายละเอียดต่างๆ อย่างรอบคอบแล้ว ในส่วนของ ปตท.ก็จะมอบหมายให้ทีมก๊าซฯ พิจารณาต่อ หากมีการจัดส่งเอกสารมาก็พร้อมที่จะดำเนินการลงนามตามขั้นตอนต่อไป เรายินดีขายก๊าซฯ อยู่แล้ว” นายชาญศิลป์กล่าว
ด้านนายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.พร้อมลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซฯ กับ ราช กรุ๊ป ภายใน 30 วัน หลังได้รับหนังสือนำส่งเรื่องสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าหินกองทั้ง 2 โรงละ 700 เมกะวัตต์ หรือรวม 1,400 เมกะวัตต์
โครงการโรงไฟฟ้าหินกองทั้ง 2 โรงเป็นโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงในภาคตะวันตก ซึ่งมีปริมาณการใช้ก๊าซฯ สำหรับ 2 โรงไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ที่ 200-240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน อายุสัญญา 25 ปี เท่ากับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ขณะที่ราคาก๊าซฯจะเป็นไปตามข้อกำหนดและการกำกับดูแลของคณะกรรมการกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ในปี 2567 และปี 2568 ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
แหล่งข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้าของบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ NPS ที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เห็นชอบให้เปลี่ยนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเขาหินซ้อน เป็นก๊าซธรรมชาติ ขนาดกำลังการผลิต 540 เมกะวัตต์ โดยมอบหมายให้ กกพ.และ กฟผ.ไปดำเนินการเจรจาเรื่องสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศนั้น ทาง กกพ.ได้พิจารณาร่างสัญญา PPA และส่งให้ กฟผ.ไปดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว ซึ่งจะต้องส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาต่อไป โดยหากไม่มีอะไรติดขัดก็คาดว่าจะลงนาม PPA ได้ในไม่ช้า