ส.อ.ท.หวังการพิจารณาค่าเอฟทีงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค. 62) กกพ.จะตรึงค่าไฟหรือลดลงก็จะยิ่งดีหากปรับขึ้นจะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจเหตุผู้ประกอบการก็ระส่ำส่งออกลำบากอยู่แล้ว ด้านสำนักงาน กกพ.เตรียมแถลงผลพรุ่งนี้ (11 ก.ค.)
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า พรุ่งนี้ (11 ก.ค.) สำนักงาน กกพ.จะแถลงผลการพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) สำหรับเดือนกันยายน-ธันวาคม 2562 ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้มีการพิจารณาเพื่อเรียกเก็บในบิลค่าไฟฟ้าประชาชนซึ่งยอมรับว่าหากพิจารณาในแง่ของต้นทุนจริงแล้วมีโอกาสจะต้องปรับขึ้นสูงแต่หากมองในมุมของเศรษฐกิจและการเมืองที่เพิ่งมีรัฐบาลใหม่แล้วอาจจะมีการพิจารณาตรึงค่าไฟฟ้า
“ค่าเอฟทีงวดปัจจุบัน (พ.ค.-ส.ค. 62) ติดลบ 11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ 3.6396 บาทต่อหน่วยซึ่งงวดนี้ กกพ.เองก็พิจารณาตรึงไว้เช่นกันเพราะต้องการดูแลเศรษฐกิจที่ผ่านมาทั้งที่ข้อเท็จจริงจะต้องมีการปรับขึ้นโดยครั้งนั้นมีการบริหารจัดการโดยนำเงินที่ลงทุนไม่เป็นตามแผนของ 3 การไฟฟ้ามาดูแล ดังนั้นงวดนี้หากนำเรื่องการเมืองมาพิจารณาก็คงตรึงค่าไฟฟ้า” แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ หากพิจารณาต้นทุนการผลิตไฟฟ้าภาพรวม โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติที่สะท้อนตามราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือนแล้ว ค่าเอฟทีงวดใหม่จะต้องปรับขึ้น ประกอบกับอากาศที่ร้อนทำให้มีการใช้ก๊าซฯ ผลิตไฟที่เพิ่มแม้ว่าบาทแข็งจะทำให้ต้นทุนต่ำลง แต่ภาพรวมก็ยังสูงกว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลและเศรษฐกิจมีหลายปัจจัยที่กระทบอาจทำให้ กกพ.ตัดสินใจตรึงค่าไฟฟ้าก็เป็นไปได้เช่นกัน
นายสุพันธุ์ มลคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ต้องการให้ กกพ.พิจารณาลดหรือตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เพื่อดูแลเศรษฐกิจเนื่องจากหากขึ้นจะเป็นการซ้ำเติมผู้ส่งออกที่เจอปัญหาหลายด้านอยู่แล้วทั้งสงครามการค้าที่ทำให้ส่งออก 5 เดือนแรกติดลบ 2.7% และค่าเงินบาทที่แข็งค่า