xs
xsm
sm
md
lg

ซ้อมมือบริหารจัดการน้ำ ฝนทิ้งช่วง ก่อนถึงฤดูแล้งใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ฝนทิ้งช่วง... เป็นช่วงเวลาความเป็นความตายของเกษตรกร


เพราะความหมายของฝนทิ้งช่วง คือ ระยะเวลาที่ฝนตกในแต่ละวันไม่ถึง 1 มิลลิเมตร ต่อเนื่อง 15 วันในฤดูฝน เนื่องจากความกดอากาศต่ำเลื่อนขึ้นไปทางเหนือ พาดผ่านตอนใต้ของจีน ทำให้ฝนในไทยน้อย พูดจาประสาชาวบ้าน “ฝนทิ้งช่วง” คือ “ฝนไม่ตกติดต่อกัน 15 วัน” โดยคาดว่าจะเกิดช่วงปลายเดือนมิถุนายนต่อเนื่องถึงต้นเดือนกรกฎาคม 2562



ผลกระทบเกิดขึ้นกับพืชที่ต้องการน้ำมากอย่างข้าวในนาที่เพิ่งหว่านดำ ต้องยืนต้นแห้งเหี่ยวตาย โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานที่อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ส่วนในเขตชลประทานยังได้รับน้ำจากแหล่งน้ำต้นทุนที่สำรองไว้ระดับหนึ่งได้

“ตอนนี้การคาดการณ์สภาพฝนยังไม่เปลี่ยนแปลง ฝนทิ้งช่วงยังเหมือนเดิมที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์” ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวเมื่อถามถึงสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงในปีนี้ “เราใช้ทุกเครื่องมือที่มีอยู่และโครงการที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งอนุมัติ” ดร.สมเกียรติย้ำอีกที


เครื่องมือที่มีอยู่ได้แก่แหล่งน้ำต้นทุนต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว และเสริมด้วยการปรับเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำในเขื่อน เพื่อเก็บน้ำเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะเชื่อว่าไม่เพียงแต่ฝนทิ้งช่วงเท่านั้น แต่ฤดูฝนปีนี้ปริมาณฝนจะน้อยกว่าค่าเฉลี่ย และน้อยกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง และภาคอีสานตอนกลาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในเขื่อนลากยาวถึงฤดูแล้งถัดไปทันที การเก็บน้ำทุกหยดจึงหวังลดผลกระทบให้น้อยลง

ในขณะโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีนั้น ส่วนหนึ่งเป็นการขุดลอกแหล่งน้ำในพื้นที่แห้งแล้งเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน 28 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมกันนั้นจะต้องมีการจัดทำฝายชะลอน้ำ 30,000 แห่ง เพื่อเพิ่มความชื้นในพื้นที่และเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ในอนาคต ซึ่งทั้งสองอย่างต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จช่วงต้นฝนนี้


นอกจากนั้น การทำฝนหลวงโดยกรมการฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามลดผลกระทบฝนทิ้งช่วง และปริมาณฝนน้อยทั้งฤดู ซึ่งความพยายามนี้เห็นผล อย่างเช่น เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนต่ำกว่าระดับน้ำใช้การ (Dead Storage) ขณะนี้ค่อยๆ สูงขึ้นเหนือระดับ Dead Storage หลังทำฝนหลวง

“ช่วงนี้สภาพอากาศเป็นใจ มีความชื้นพอที่จะให้เมฆก่อตัวทำฝนหลวงได้ พื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% เราพยายามทำฝนหลวง เพื่อยกระดับน้ำให้มากขึ้น”

เลขาธิการ สทนช.กล่าวด้วยว่า การจัดระบบการปลูกพืชของกระทรวงเกษตรฯ ก็ยังจำเป็น และถ้าปรับปรุงจากเดิม โดยเฉพาะขอบเขตการปลูกพืชที่แน่นอน ก็จะมีส่วนช่วยให้การบริหารจัดการน้ำดีขึ้นด้วย โดยไม่ต้องส่งน้ำไปยังพื้นที่เพาะปลูกที่ไม่อยู่ในแผนจัดสรรน้ำ

สำหรับพื้นที่เสี่ยงฝนทิ้งช่วงหลักๆ น่าจะได้แก่เขื่อนในภาคกลาง ได้แก่ เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี และอาจรวมถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

“เขื่อนทับเสลามีคณะกรรมการร่วมบริหารจัดการน้ำ JMC อาจใช้เพื่ออุปโภคบริโภคอย่างเดียว โดยอาศัยน้ำฝนในการเพาะปลูกแทน”

ส่วนในภาคอีสาน ต้นน้ำชี และต้นน้ำมูล ยังคงต้องเน้นการสร้างความรับรู้อย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าในเดือนสิงหาคม น้ำจะค่อยๆ ยกระดับดีขึ้นชัดเจน

ในขณะที่ความหวังในการมีพายุจรเพิ่มเติมจาก 1-2 ลูก เพื่อเพิ่มปริมาณฝน ดร.สมเกียรติกล่าวว่า จากการพยากรณ์ยังคงมีจำนวน 1-2 ลูกเท่าเดิม และแม้เกิดพายุไซโคลน “วายุ” ในประเทศอินเดียที่ผ่านมาก็ไม่ส่งผลดีมาถึงประเทศไทยแต่อย่างใด

สถานการณ์ของฝนทิ้งช่วงปีนี้ จึงเป็นบททดสอบแรกก่อนถึงบททดสอบใหญ่ยาวนาน ในฤดูแล้งถัดไป 1 พฤศจิกายน 2562 - 30 เมษายน 2563


กำลังโหลดความคิดเห็น