“ศิริ” เผยสถานการณ์น้ำมันลดความตึงเครียดลงแล้ว กบง.รายงานฐานะกองทุนน้ำมันฯ ยังแข็งแรง แม้แอลบัญชีติดลบแต่ยังไม่ถึงกรอบ 7,000 ล้านบาท มั่นใจยังตรึงแอลพีจีครัวเรือน 363 บ./ถังได้อีก 2-3 เดือนหลังราคาโลกดิ่ง เผยเคลียร์งานทุกอย่างพร้อมส่งต่อ รมว.พลังงานคนใหม่ขับเคลื่อนทันที
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อ 27 พ.ค.ว่า กบง.ได้รับทราบความคืบหน้าการเตรียมพร้อมแผนรองรับภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานที่ล่าสุดราคาน้ำมันตลาดโลกคลายความตึงเครียดลงจากก่อนหน้านี้ แต่กระทรวงฯ ได้เตรียมพร้อมแผนไว้แล้วกรณีฉุกเฉิน ประกอบกับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีมากกว่า 35,000 ล้านบาท ยังเป็นกลไกที่จะสามารถดูแลระดับราคาน้ำมันได้ เช่นเดียวกับราคาแอลพีจีที่กำหนดกรอบวงเงินไว้ในการดูแลราคาแอลพีจีครัวเรือนไม่เกิน 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ขณะนี้บัญชีแอลพีจีติดลบ 6,582 ล้านบาท จึงคงเพียงพอที่จะดูแลไปได้อย่างน้อย 2-3 เดือน หากราคาแอลพีจีตลาดโลกยังเคลื่อนไหวระดับปัจจุบัน
“ราคาน้ำมันก็เริ่มลดลงมาบ้างไม่ตึงเครียดเช่นที่ผ่านมา ส่วนราคาแอลพีจีช่วงนี้หน้าร้อนราคาลดลงอยู่แล้วเฉลี่ยอยู่ที่ 410 กว่าเหรียญสหรัฐต่อตัน เงินบัญชีแอลพีจีที่จะดูแลก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรยังอยู่ได้อีก 2-3 เดือนอย่างต่ำ ถ้าไม่มีอะไรฉุกเฉินจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องประชุม กบง.อีกแล้ว ทั้งหมดผมก็วางแนวทางต่างๆ เอาไว้พร้อมที่จะส่งมอบต่อให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่มาสานต่อได้ทันที” นายศิริกล่าว
สำหรับกรณีหากเกิดวิกฤตน้ำมันจริงด้วยการปิดช่องแคบเฮอร์มุซ กระทรวงพลังงานได้วางมาตรการดูแลครอบคลุมเรื่องหลักๆ 3 ด้าน ได้แก่ น้ำมันดิบต้องไม่ให้ขาดแคลน โรงกลั่นต้องมีการดำเนินการต่อเนื่อง และรายงานการผลิต และน้ำมันสำเร็จรูปต้องมีเพียงพอ ซึ่งตามกฎหมายสำรองน้ำมันไทยก็ยังสามารถใช้ได้ 30-45 วัน
ส่วนกรณีความคืบหน้าการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) 1.5 ล้านตัน ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยังคงต้องไปทำความเข้าใจกับ บมจ.ปตท.ในรายละเอียดเพิ่มเติมในการทำความเข้าใจบทบาทและหน้าที่เพิ่มเติมโดยเฉพาะกรณีปัญหาซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ก็ต้องจ่ายเงิน (Take or Pay) และปริมาณก๊าซที่ผู้ขายจะต้องส่งมอบตามสัญญาให้แก่ผู้ซื้อในแต่ละวัน หรือ DCQ (Daily Contract Quantity) ที่ กฟผ.ในฐานะเป็นผู้ขายรายที่ 2 จำเป็นต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบกับ ปตท.ด้วย
นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง กฟผ. กล่าวว่า ได้รายงาน กบง.ถึงความคืบหน้าการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ในส่วนที่เหลือจำนวน 54,700 ตัน เพื่อให้ครบ 100,000 ตันแรก ซึ่งในวันที่ 28 พ.ค.จะเปิดให้โรงสกัด 149 รายยื่นเสนอราคา และวันที่ 29 พ.ค.ประกาศรายชื่อผู้ชนะการเสนอราคาก่อนที่จะลงนามต่อไปในวันที่ 31 พ.ค. เบื้องต้นพบว่าราคาปาล์มทะลายเริ่มมีราคาสูงขึ้นเล็กน้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เหลืออีก 100,000 ตันนั้นจะมีการเปิดซื้อหรือไม่คงจะต้องดูระดับราคาปาล์มทะลายว่าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ รวมถึงปริมาณสต๊อก CPO อีกด้วย