xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” แจ้งข่าวผู้ส่งออก ศึกษาการใช้สารปรอทในการผลิต หลังอาร์เจนตินาห้ามใช้ใน 8 ผลิตภัณฑ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“กรมการค้าต่างประเทศ” เตือนผู้ผลิต-ผู้ส่งออกที่ส่งสินค้าไปยังอาร์เจนตินา ต้องศึกษาข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้สารปรอทใหม่ให้ดี หลังประกาศห้ามเติมสารดังกล่าวในผลิตภัณฑ์จำนวน 8 รายการ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท เผยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 63 เป็นต้นไป

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า อาร์เจนตินาได้ออกข้อกำหนดไม่อนุญาตให้เติมสารปรอทในผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตในประเทศ นำเข้า หรือส่งออก จำนวน 8 รายการ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท (Minamata Convention on Mercury) โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นไป ซึ่งกรมฯ ขอให้ผู้ประกอบการไทยที่ทำการผลิตและส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังตลาดอาร์เจนตินา ควรศึกษาข้อกำหนดในการส่งออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้ดี เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรค์ต่อส่งออก

สำหรับสินค้าทั้ง 8 รายการ ได้แก่ 1. แบตเตอรี่ ยกเว้นแบตเตอรี่กระดุมแบบสังกะสีออกไซด์และแบตเตอรี่กระดุมแบบสังกะสีอากาศ ที่มีปรอทน้อยกว่า 2% โดยน้ำหนัก 2. สวิตช์ไฟฟ้าและรีเลย์ยกเว้น สวิตช์ความถี่วิทยุที่มีความถี่สูง รีเลย์ที่ใช้ในการติดตามตรวจสอบ และเครื่องมือควบคุมที่มีปรอทมากกว่า 20 มิลลิกรัมต่อสะพานสวิตช์หรือรีเลย์ 3. หลอดฟลูออเรสเซนต์ชนิดคอมแพกต์ ใช้งานทั่วไปขนาดต่ำกว่าหรือเท่ากับ 30 วัตต์ และมีปรอทบรรจุมากกว่า 5 มิลลิกรัมต่อหลอด


4. หลอดฟลูออเรสเซนต์ชนิดตรงใช้งานทั่วไป เช่น หลอดที่ใช้สารเรืองแสงแบบแถบ 3 สี น้อยกว่า 60 วัตต์ และมีปรอทบรรจุมากกว่า 5 มิลลิกรัมต่อหลอด และหลอดที่ใช้สารเรืองแสงชนิดฮาโลฟอสเฟต น้อยกว่าหรือเท่ากับ 40 วัตต์ และมีปรอทบรรจุมากกว่า 10 มิลลิกรัมต่อหลอด 5. หลอดไอปรอทความดันสูง สำหรับการใช้แบบส่องสว่างทั่วไป 6. หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบแคโทดเย็น (CCFL) และหลอดฟลูออเรสเซนต์แบบอิเล็กโทรดภายนอก (EEFL) ในจอภาพอิเล็กทรอนิกส์ โดยขนาดสั้น (≤ 500 มิลลิเมตร) และมีปรอทบรรจุมากกว่า 3.5 มิลลิกรัมต่อหลอด ขนาดกลาง (> 500 มิลลิเมตร และ ≤ 1,500 มิลลิเมตร) และมีปรอทบรรจุมากกว่า 5 มิลลิกรัมต่อหลอด และขนาดยาว (มากกว่า 1,500 มิลลิเมตรและมีปรอทบรรจุมากกว่า 13 มิลลิกรัมต่อหลอด 7. สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง และยาฆ่าเชื้อ และ 8.เครื่องมือวัดที่ไม่ใช่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่รวมถึงเครื่องมือวัดที่ติดตั้งในสเกลขนาดใหญ่ หรือการวัดที่ต้องการความแม่นยำสูง และไม่มีอุปกรณ์/เครื่องมือทางเลือกที่เหมาะสม ได้แก่ บาโรมิเตอร์ ไฮโกรมิเตอร์ มาโนมิเตอร์ เทอร์โมมิเตอร์ เครื่องวัดความดันโลหิต

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้จะได้รับการยกเว้น คือ 1. ผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการป้องกันพลเรือนและการใช้งานทางทหาร 2. ผลิตภัณฑ์สำหรับการวิจัย การสอบเทียบเครื่องมือวัดใช้เพื่อเป็นมาตรฐานอ้างอิง 3. สวิตช์ รีเลย์ หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบแคโทดเย็น และหลอดฟลูออเรสเซนต์แบบอิเล็กโทรดภายนอก สำหรับจอแสดงภาพอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์วัด กรณีที่ไม่มีทางเลือกที่เป็นไปได้ที่ไม่ใช้ปรอทมาแทน 4. ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในแนวปฏิบัติทางประเพณี หรือศาสนา และ 5. วัคซีนที่มีสารไทโอเมอร์ซอลเป็นสารกันบูด

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ https://members.wto.org/crnattachments/2019/TBT/ARG/19_0955_00_s.pdf หรือกองบริหารสินค้าข้อตกลงและมาตรการการค้า กรมการค้าต่างประเทศ โทร. 0-25474734 หรือสายด่วน 1385


กำลังโหลดความคิดเห็น