กรมพัฒนาธุรกิจการค้าผลักดันธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในพื้นที่ EEC กว่า 5 พันราย มีความพร้อมรับมือการขยายตัวของเศรษฐกิจในพื้นที่ เตรียมผลักดันให้นำเทคโนโลยีมาใช้สร้างเครือข่าย พัฒนาบุคลากร คุณภาพการให้บริการ การรักษาฐานลูกค้า และสร้างมาตรฐานการขนส่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และตั้งเป้าให้ได้มาตรฐาน ISO 9001 เพิ่มมากขึ้น
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในปี 2562 กรมฯ จะให้ความสำคัญในการพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มากขึ้น เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจให้มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน โดยจะพัฒนาธุรกิจให้มีศักยภาพในการบริหารจัดการ มีความพร้อมในการแข่งขัน สามารถสร้างผลประกอบการที่ดี และจะมีการประเมินผลตามมาตรฐาน ISO ที่จะสามารถวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งที่จะนำมาพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจให้มีความน่าเชื่อถือ ตอบโจทย์ลูกค้าหรือผู้รับบริการ และพร้อมที่จะแข่งขันในตลาดภายในประเทศและเชื่อมต่อระหว่างประเทศ
โดยสิ่งที่กรมฯ จะผลักดันให้ผู้ประกอบการต้องเร่งดำเนินการในปัจจุบัน คือ การปรับตัวและเปลี่ยนวิธีคิดใหม่เพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น โดยจะต้องนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า สามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว, การสร้างเครือข่ายด้วยการเปลี่ยนคู่แข่งเป็นพันธมิตร, การพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในการประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ, การพัฒนาคุณภาพการให้บริการ, การรักษาฐานลูกค้าในปัจจุบัน และการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการขนส่งสินค้าที่ต้องถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยและไม่เสียหาย
“กรมฯ ได้ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553-61 โดยสามารถผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์พัฒนาตนเองและระบบการบริหารจัดการธุรกิจจนได้รับเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน ISO 9001 จำนวนกว่า 500 ราย แบ่งเป็นธุรกิจขนส่งสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่อง 67% บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ 13% ตัวแทนออกของรับอนุญาต 11% คลังสินค้า 5% และบริการโลจิสติกส์ครบวงจร 4% และจะผลักดันให้ธุรกิจโลจิสติกส์ได้มาตรฐาน ISO 9001 ให้เพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้จะเน้นในพื้นที่ EEC” นายวุฒิไกรกล่าว
ปัจจุบันข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2562 มีนิติบุคคลให้บริการโลจิสติกส์ใน EEC จำนวนรวมทั้งสิ้น 5,015 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 34,465.57 ล้านบาท แบ่งเป็นจังหวัดชลบุรี 3,560 ราย ทุนจดทะเบียน 22,942.01 ล้านบาท จังหวัดระยอง 933 ราย ทุนจดทะเบียน 3,599.99 ล้านบาท และฉะเชิงเทรา 522 ราย ทุนจดทะเบียน 7,923.57 ล้านบาท โดยจำนวนธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในเขต EEC คิดเป็น 20.18% จากจำนวนธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 24,852 ราย
ส่วนธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ทั้งประเทศที่มีจำนวน 24,852 ราย แบ่งเป็นการขนส่งทางบกและระบบท่อลำเลียง 17,788 ราย คิดเป็น 71.58% ของธุรกิจที่มีอยู่ทั้งหมด ตัวแทนออกของ 3,571 ราย คิดเป็น 14.37% การบริหารจัดการเกี่ยวกับสินค้า 1,116 คิดเป็น 4.49% คลังสินค้า 776 ราย คิดเป็น 3.12% การขนส่งทางน้ำ 655 ราย คิดเป็น 2.64% การขนถ่ายสินค้า 640 ราย คิดเป็น 2.58% การขนส่งทางอากาศ 186 ราย คิดเป็น 0.75% ตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าและอื่นๆ 120 ราย คิดเป็น 0.47%