รัฐมนตรีอาร์เซ็ปลุยสรุปเจรจาปีนี้ วางเกณฑ์เข้มกันสมาชิกถ่วง

รัฐมนตรี 16 ชาติอาร์เซ็ปปิดจุดอ่อนการเจรจา หลังหลายประเทศมีเลือกตั้ง เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ หวั่นถ่วงการเจรจาให้ล่าช้า วางเกณฑ์ห้ามเปลี่ยนตัวผู้เจรจา หากเปลี่ยนต้องยึดตามที่เจรจาไว้ก่อนหน้า ย้ำการเจรจาต้องยืดหยุ่น ไม่แข็งกร้าว ไม่เชื่อมโยงผลประโยชน์การเจรจาเรื่องหนึ่งกับเรื่องอื่น ห้ามใช้ดีเลย์แท็กติก หวังให้บรรลุผลทุกเรื่องในสิ้นปีนี้ช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียน

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 7 ระหว่างอาเซียนและคู่เจรจา 16 ประเทศ คือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 62 ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ว่า การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี รัฐมนตรีอาร์เซ็ปยืนยันความตั้งใจของผู้นำอาร์เซ็ปที่จะสรุปผลการเจรจาทั้งหมดให้ได้ในปีนี้ แม้จะมีความกังวลต่อความท้าทายต่างๆ เช่น การเลือกตั้งของสมาชิกหลายประเทศ ทั้งไทย อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย ที่อาจทำให้การเจรจาอาจล่าช้าออกไป รวมถึงความท้าทายจากท่าทีการเจรจาที่แข็งกร้าวและความต้องการปกป้องอุตสาหกรรมภายในของบางประเทศ ที่อาจทำให้อาร์เซ็ปไม่สามารถหาสมดุลของผลประโยชน์ระหว่างสมาชิกได้ตามเป้าหมาย

โดยในการประชุมรัฐมนตรีได้ขอให้สมาชิกทุกประเทศยึดหลักปฏิบัติและวินัยในการเจรจาเพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว โดยการเจรจาในทุกระดับต้องมีความยืดหยุ่น เป็นไปในเชิงบวกและสร้างสรรค์ ไม่ก่อให้เกิดปัญหา หลีกเลี่ยงการเปิดประเด็นที่ได้เห็นชอบแล้ว หรือการใช้กลยุทธ์ต่อรองผลประโยชน์จากการเจรจาในเรื่องหนึ่งกับอีกเรื่องหนึ่งอย่างไม่เหมาะสม รวมถึงสมาชิกต้องไม่ยืนยันท่าทีเดิมตลอดเวลา และพร้อมเสนอทางเลือกที่เป็นไปได้ โดยแต่ละประเทศไม่ควรเปลี่ยนแปลงผู้เจรจา หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้เจรจาคนใหม่ต้องได้รับข้อมูลการเจรจาที่ผ่านมาอย่างครบถ้วนในทุกประเด็น เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่ เพราะขณะนี้การเจรจาอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย จึงต้องร่วมกันเอาชนะความท้าทายต่างๆ และทำให้การเจรจาบรรลุผลในสิ้นปีนี้ในช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียน

น.ส.ชุติมากล่าวว่า รัฐมนตรีอาร์เซ็ปยังได้ร่วมกันวางแผนงานที่ชัดเจนสำหรับการเจรจา และให้ความเห็นชอบแผนการทำงานของปี 2562 รวมทั้งเน้นย้ำให้คณะทำงานเร่งเจรจาให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยการเจรจารอบบาหลีเมื่อเดือน ก.พ. 2562 ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าทั้งเรื่องการเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน รวมถึงเรื่องกฎเกณฑ์ ดังนั้น รัฐมนตรีอาร์เซ็ปจึงตั้งเป้าให้ทุกระดับของการเจรจาเร่งดำเนินการเจรจาอย่างเข้มข้นขึ้น ก่อนที่รัฐมนตรีอาร์เซ็ปจะพบกันอีกครั้งในเดือน ส.ค. 2562 โดยมุ่งหวังให้สรุปทุกเรื่องที่เหลืออยู่ เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การเงิน โทรคมนาคม กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า รวมถึงสรุปผลการเจรจาเปิดตลาดให้ได้

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีเห็นว่าหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเจรจา คือ การหารือสองฝ่ายระหว่างประเทศสมาชิกที่มีข้อเรียกร้องในการเปิดตลาดระหว่างกัน จึงได้เน้นย้ำให้ทุกประเทศเพิ่มความพยายามในการใช้กลไกดังกล่าวให้มากขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แต่ละฝ่ายสามารถยอมรับร่วมกันได้