ทอท.เผยวิกฤตปิดน่านฟ้าปากีสถาน 27 ก.พ. มีผู้โดยสารตกค้างที่สุวรรณภูมิถึง 4,900 คน แอร์ไลน์ ยกเลิกบินเข้า-ออกรวม 36 เที่ยวบิน ด้านการบินไทยใช้น่านฟ้าจีนบินเข้ายุโรปแทน จ่อเพิ่ม 3 เที่ยวบินพิเศษส่งผู้โดยสารตกค้างที่เหลืออีก 3,000 คน ลุ้นสถานการณ์คลี่คลาย คาดปากีสถานประกาศเปิดน่านฟ้าเช้าพรุ่งนี้ (1 มี.ค.)
นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันพุธที่ 27 ก.พ. 62 เวลา 14.30 น. (เวลาท้องถิ่นประเทศไทย) มีการออก NOTAM ปิดน่านฟ้าเหนือสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน เนื่องจากปัญหาระหว่างประเทศ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินที่จะเดินทางไปสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานและประเทศในแถบยุโรป เช่น กรุงเทพฯ-ลอนดอน กรุงเทพฯ-มอสโก กรุงเทพฯ-แฟรงก์เฟิร์ต กรุงเทพฯ-ปารีส กรุงเทพฯ-ซูริก กรุงเทพฯ-บรัสเซลส์ กรุงเทพฯ-โคเปนเฮเกน เป็นต้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบมีสายการบินขอยกเลิกเที่ยวบิน (CANCEL FLIGHT) ในระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2562 (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 13.00 น.) โดยแบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้า 16 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออก 20 เที่ยวบิน โดยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 มีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบต้องขอกลับเข้ามาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (RETURN FLIGHT) จำนวน 3 เที่ยวบิน
ขณะที่มีผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเที่ยวบินที่ไม่สามารถบินผ่านน่านฟ้าเหนือปากีสถานได้ และ ตกค้างที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 27 ก.พ. รวมประมาณ 4,900 คน โดยเป็นผู้โดยสารของสายการบินไทย และสายการบินอีว่าแอร์
ขณะนี้ทางสนามบินสุวรรณภูมิได้รับแจ้งข้อมูลจากสายการบินไทยว่าจะสามารถกลับมาให้บริการเที่ยวบินตามตารางการบินที่เดินทางไปยุโรปในวันนี้ (28 ก.พ.) ได้ตามปกติ โดยเที่ยวบินตามตารางบินปกติได้ทยอยออกตามเวลาแล้ว
“เหตุการณ์ปากีสถานปิดน่านฟ้าได้ส่งผลกระทบต่อทุกสนามบินที่มีเที่ยวบินที่ต้องบินผ่านน่านฟ้าปากีสถาน”
ทั้งนี้ สนามบินสุวรรณภูมิได้มีการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยได้จัดพื้นที่รับรองผู้โดยสารที่ตกค้าง ณ บริเวณชั้น 4 ประตู 1, ชั้น 2 ประตู 1, ชั้น 1 ประตู 3 ประตู 4 โดยได้มีการเสริมเก้าอี้ให้ผู้โดยสารได้นั่งพักคอย และจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกการให้บริการผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (AIRPORT OPERATION CENTER) ณ ห้อง CIP 5 โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ในการบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารที่ตกค้างให้ได้รับการดูแลอย่างดี จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลผู้โดยสารบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ Check in row H/J ของสายการบินไทย
***การบินไทยเตรียมจัด 3 เที่ยวบินพิเศษส่งผู้โดยสารตกค้าง
นายธีระ บัวศรี ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมการบริการภาคพื้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ (AOC) กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่มีการปิดน่านฟ้าเหนือปากีสถาน มีผู้โดยสารของการบินไทยได้รับผลกระทบประมาณ 4,000 คน ซึ่งขณะนี้ได้พยายามจัดหาที่นั่งว่างของสายการบินอื่นๆ เพื่อส่งต่อผู้โดยสาร ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสายการบินพันธมิตรในการอัปเกรดที่นั่งให้ โดยล่าสุดเหลือผู้โดยสารที่ตกค้างอีกประมาณ 3,000 คน
โดยขอความร่วมมือผู้โดยสารที่มีตั๋วเดินทางในวันที่ 27 ก.พ.ทำการลงทะเบียนเพื่อแสดงตัวตน เนื่องจากมีผู้โดยสารบางคนซื้อตั๋วโดยสารของสายการบินอื่นเพื่อเปลี่ยนการเดินทางไปแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้สามารถบริหารจัดการผู้โดยสารที่ตกค้างได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งสามารถติดต่อได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ, สำนักงานใหญ่การบินไทย, Call Center ของการบินไทย
ทั้งนี้ การบินไทยได้เตรียมแผนในการจัดเที่ยวบินพิเศษประมาณ 3 เที่ยวบิน ไปยัง 3 จุดบิน ได้แก่ แฟรงก์เฟิร์ต, ปารีส, ลอนดอน สำหรับผู้โดยสารตกค้าง โดยจะมีการเตรียมความพร้อมของเครื่องบินและลูกเรือ แต่เนื่องจากยังไม่สามารถเจรจาขอทำการบินผ่านไปทางประเทศจีนในส่วนของเที่ยวบินพิเศษได้ เพราะขณะนี้มีหลายประเทศได้ขอทำการบินผ่านไปน่านฟ้าจีนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งจีนได้ให้การบินไทยทำการบินผ่านน่านฟ้าจีนไปยังยุโรปในเที่ยวบินที่เป็นตารางบินปกติอยู่แล้ว
***ลุ้นปากีสถานประกาศเปิดน่านฟ้าพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) หวังสถานการณ์คลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม ทางปากีสถานมีการออก NOTAM ปิดน่านฟ้าจนถึงวันที่ 1 มี.ค. เวลา 06.59 น. ซึ่งพรุ่งนี้อาจจะมีข่าวดี รวมถึงการเจรจาเพื่อขอทำการบินเที่ยวบินพิเศษกับปากีสถาน และน่านฟ้าของประเทศที่เป็นทางผ่านทั้งหมดต่อไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วันในการจัดส่งผู้โดยสารที่ตกค้างได้หมด
สำหรับกรณี 4 เที่ยวบินที่ต้องบินกลับจากที่ทำการบินออกจากสุวรรณภูมิไปแล้วครึ่งทางเมื่อวันที่ 27 ก.พ. นั้นมีผู้โดยสารประมาณ 800 คน ซึ่งบริษัทฯ ให้การดูแล จัดเข้าโรงแรมที่พัก แม้ว่าตามหลักเกณฑ์สากล กรณีเกิดเหตุทางการเมืองสายการบินจะไม่ต้องรับผิดชอบก็ตาม โดยผู้โดยสารเหล่านี้ได้ผ่านการตรวจวีซ่าออกนอกเมืองไปแล้ว ดังนั้น เมื่อต้องรับกลับเข้าประเทศไทยอีกจึงได้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในการอนุญาตเข้าเมืองช่วงสั้นๆ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บพาสปอร์ตของผู้โดยสารไว้
