xs
xsm
sm
md
lg

“ศิริ” ลั่นราคาน้ำมัน ตจว.จะใกล้เคียง กทม. หลังท่อเหนือ-อีสานแล้วเสร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ศิริ” หนุนโครงการท่อน้ำมันทั้งภาคเหนือและอีสาน ลั่นหากแล้วเสร็จจะส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกต่างจังหวัดลดลงใกล้เคียงกับ กทม.และปริมณฑลที่ปกติจะแพงกว่า 30 สตางค์ต่อลิตร พร้อมสั่งศึกษาต่อยอดในอนาคตเพื่อวางโครงข่ายเชื่อมเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน ด้าน TPN ลุยก่อสร้างท่ออีสาน คาดเสร็จไตรมาส 4 ปี 64


นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการเป็นประธานในพิธีลงนามเซ็นสัญญาระหว่าง บ.ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC กับไชน่า ปิโตรเลียมไปป์ไลน์ บูโร หรือ CPP เพื่อเดินหน้าก่อสร้างโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาทว่า โครงการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงพลังงานเพื่อลดการขนส่งน้ำมันทางรถยนต์ที่จะช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมแล้วยังจะทำให้ระดับราคาขายปลีกน้ำมันในภูมิภาคใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ และปริมณฑล และแผนระยะยาวได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ศึกษาการเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน

“กระทรวงพลังงานได้สนับสนุนให้เอกชนวางท่อน้ำมัน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นการวางท่อน้ำมันภาคเหนือที่จะเชื่อมจากบางปะอิน-กำแพงเพชร-ลำปาง ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ หรือ FPT ล่าสุดพร้อมที่จะเปิดใช้ส่วนแรกที่เป็นคลังที่ จ.พิจิตรในเดือนหน้า ส่วนท่อน้ำมันไปอีสานของ TPN จะแล้วเสร็จปี 2564 ทั้งหมดจะทำให้ต้นทุนขนส่งทางท่อต่ำลง และจะมีผลให้ราคาขายปลีกที่ขณะนี้ในต่างจังหวัดเฉลี่ยจะแพงกว่า กทม.ประมาณ 30 สตางค์ต่อลิตร จะลดลงถึง 20 สตางค์ต่อลิตร” นายศิริกล่าว

สำหรับอนาคตหลังจากนั้นระบบท่อในไทยยังสามารถขยายจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือจาก จ.ขอนแก่นไปยังหนองคายและเชื่อมต่อไปยัง สปป.ลาวได้ ซึ่งคงต้องรอการศึกษาเช่นเดียวกับภาคเหนือที่อาจต่อจาก จ.กำแพงเพชรแล้วเชื่อมไปยัง จ.ตาก และไปยังพม่า โดยแม้ว่าทิศทางการใช้น้ำมันจะถูกแทนที่ด้วยยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มากขึ้น แต่ก็เชื่อว่าระบบการขนส่งยังต้องใช้น้ำมันเป็นส่วนใหญ่ในช่วง 20-30 ปีข้างหน้า

นายภาณุ ศีติสาร ประธานกรรมการ บริษัทเพาเวอร์ โซลูชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC และกรรมการ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ TPN กล่าวว่า CPP จะเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบขนส่งน้ำมันในภาคอีสานมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท และกำหนดระยะเวลาก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 เดือน หรือจะเปิดดำเนินการได้ไตรมาส 4 ปี 2564 โดยท่อน้ำมันจะมีระยะทาง 342 กิโลเมตร เริ่มจากอำเภอเสาไห้ จ.สระบุรี ไปยังอำเภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และมีการก่อสร้างคลังน้ำมันที่อำเภอบ้านไผ่ ขนาด 140 ล้านลิตร

“ท่อน้ำมันจะลดปริมาณการขนส่งน้ำมันทางรถบรรทุกลงไปจำนวน 88,000 เที่ยวต่อปี คิดเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงในการขนส่งลงไปได้กว่า 15.4 ล้านลิตรต่อปี และลดการสูญเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงถนน ลดอุบัติเหตุ โดยบริษัทฯ และไชน่า ปิโตรเลียมฯ อยู่ระหว่างร่วมมือกันในการศึกษาความเป็นไปได้ในการที่จะขยายการวางท่อขนส่งน้ำมันไปยัง สปป.ลาวอีกด้วย” นายภานุกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น