xs
xsm
sm
md
lg

“บีโอไอ” แนะธุรกิจไทยลงทุนในอุซเบกิสถาน ชูอุตฯ อาหารแปรรูป สิ่งทอ ท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บีโอไอแนะผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน หลังเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน และเน้นกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศในปีนี้ พร้อมแนะอุตสาหกรรมที่จะเป็นโอกาสแก่นักลงทุนไทย เช่น อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป และการแปรรูปสินค้าเกษตร สิ่งทอ กิจการท่องเที่ยวและโรงแรม โดยบีโอไอเตรียมแผนจัดทัพบริษัทไทยไปดูลู่ทางการลงทุน

นายชูวงศ์ ตั้งคุณสมบัติ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายจัมชิด ซาฟาร็อฟ (MR. JAMSHID SAFAROV) กงสุลผู้ทำหน้าที่ตัวแทนกงสุลใหญ่ ณ สถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐอุซเบกิสถานประจำประเทศไทย ถึงแผนการส่งเสริมการลงทุนไทยในประเทศอุซเบกิสถาน ซึ่งในปีนี้รัฐบาลอุซเบกิสถานจะผลักดันให้เป็นปีที่มีการกระตุ้นการลงทุน หลังจากที่ได้เริ่มเปิดเสรีทางการค้าการลงทุนมากขึ้น และในปีที่ผ่านมา 2561 ก็เป็นปีแห่งการส่งเสริมผู้ประกอบการในด้านเทคโนโลยีและแนวคิดนวัตกรรม

“หลังจากที่อุซเบกิสถานได้เปิดเสรีทางเศรษฐกิจมากขึ้น และมีการปฏิรูปกฎหมายเพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น อุซเบกิสถานจึงอยากเชิญชวนนักลงทุนไทยที่มีศักยภาพเข้าไปลงทุนเพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในมิติด้านการสร้างงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาคน และการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งอุซเบกิสถานก็มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบต่างๆ เช่น การให้เช่าที่ดินในอัตราที่ต่ำ การยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักร การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นต้น” นายชูวงศ์กล่าว

นายชูวงศ์กล่าวถึงโอกาสการลงทุนของนักลงทุนไทยในอุซเบกิสถานด้วยว่า บริษัทไทยมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและการบริหารหลายด้าน เช่น ปิโตรเคมี อาหาร สินค้าเกษตร สิ่งทอ ท่องเที่ยว ในขณะที่อุซเบกิสถานมีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรทางธรรมชาติ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ฝ้าย ผักและผลไม้ บีโอไอจึงมองว่ามีอุตสาหกรรมหลายด้านที่น่าสนใจ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมผักและผลไม้แปรรูป อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมพลังงาน ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว บริการ และโรงแรม

นอกจากนี้ อุซเบกิสถานยังเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในกลางภูมิภาคเอเชียกลาง จึงสะดวกต่อการขนส่งสินค้าและบริการออกไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้าน เช่น คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน เติร์กเมนิสถาน รวมถึงตลาดรัสเซียตอนใต้อีกด้วย

“ที่ผ่านมา ในปี 2559 บีโอไอเคยจัดทีมงานด้านวิชาการเดินทางไปศึกษาลู่ทางการลงทุนในประเทศอุซเบกิสถาน รวมทั้งได้พบปะหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของอุซเบกิสถาน และได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ จัดทำเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์ไว้ให้นักลงทุนไทยนำไปศึกษาในเบื้องต้น ดังนั้น ในปี 2562 บีโอไอ โดยกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศจึงมีแผนที่จะพานักลงทุนไทยในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น กลุ่มอาหารแปรรูป กลุ่มพลังงาน กลุ่มสิ่งทอ กลุ่มโรงแรม เดินทางไปศึกษาหาลู่ทางการลงทุนในอุซเบกิสถานอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ภาคเอกชนไทยจะได้เห็นศักยภาพของอุซเบกิสถานในเชิงลึกได้อย่างแท้จริง สามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจลงทุนในอนาคตต่อไป” นายชูวงศ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น