ร.ฟ.ท.พักเจรจาประเด็นยาก รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ตั้ง “อัยการ” คุมชุดอนุฯ กก.เจรจาต่อรองเงื่อนไขที่กระทบภาพลักษณ์ 7 ก.พ.นี้ เร่งปิดดีล ซี.พี.ใน ก.พ.ตามเป้า EEC
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ก.พ.) คณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 224,544.36 ล้านบาท ได้เชิญกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ซี.พี.) และพันธมิตรเจรจาต่อรองในเรื่องเงื่อนไขสัญญา ครั้งที่ 2 ซึ่งได้เจรจากลุ่มยากที่สุด (กลุ่มที่ 1) โดยต่างฝ่ายได้แจ้งเหตุผลและความต้องการแต่ละฝ่ายเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน เนื่องจากมุมมองของภาครัฐและเอกชนอาจไม่ตรงกัน โดยยังไม่มีการตกลงใดๆ เพราะยังมีความเห็นในบางประเด็นที่ไม่ตรงกัน แต่ในกลุ่มที่ 1 ถือว่าได้ความเข้าใจระดับหนึ่ง โดยพักการเจรจาในกลุ่มที่ 1 ไว้ก่อน เพื่อเข้าสู่การเจรจาในกลุ่มที่มีผลต่อภาพลักษณ์ของรถไฟ (กลุ่มที่ 2) ซึ่งผลการเจรจาอาจจะเกี่ยวข้องไปถึงกลุ่มที่ 1
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ตั้งคณะอนุกรรมการ ซึ่งมีผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นประธาน มีรองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. ผู้แทนอีอีซี เป็นกรรมการเพื่อเจรจากับกลุ่ม ซี.พี. ในรายละเอียดกลุ่มที่ 2 ในวันที่ 7 ก.พ. โดยคณะอนุกรรมการจะประชุมกันก่อนในเวลา 09.00 น. และนัด ซี.พี.เข้าเจรจาในเวลา 10.00 น. โดยจะพยายามเจรจาและประเมินผลว่ามีข้อสรุปที่ไปต่อได้หรือไม่ และจะเปิดเวลาในวันที่ 8 ก.พ.ไว้อีกวันหากการเจรจาในวันที่ 7 ก.พ.ยังสรุปไม่ได้
ส่วนใหญ่ประเด็นกลุ่มที่ 2 ที่กระทบภาพลักษณ์รถไฟนั้นมีเรื่องข้อกฎหมายค่อนข้างมาก คณะอนุกรรมการฯ ที่มีอัยการจะทำให้การทำงานเร็วขึ้นและสรุปรายงานคณะกรรมการคัดเลือกฯ ต่อไป โดยยังคงเป้าหมาย เจรจาจบในดือน ก.พ. และลงนามสัญญาได้ในเดือน มี.ค. 2562 ซึ่งยังสอดคล้องกับกรอบที่ EEC กำหนด
“ยืนยันว่าการเจรจาและพิจารณานั้นคณะกรรมการคัดเลือกฯ ไม่สามารถพิจารณาสิ่งที่อยู่นอกกรอบ เงื่อนไข หรืออยู่ในกรอบข้อเสนอโครงการ (RFP) แต่ไม่ถึงกับมัดแน่นจนไม่ยอมอะไรเลย ดังนั้นจึงต้องเจรจาและประเมินผลว่าจะไปต่อได้หรือไม่ คณะกรรมการคัดเลือกจะเจรจาในสิ่งที่อยู่ในอำนาจและสรุปผล”