ปตท.เล็งซื้อก๊าซ และร่วมทุนแหล่งแอลเอ็นจีที่กาตาร์ หลังนโยบายกาตาร์มีแผนขยายการผลิตแอลเอ็นจีเพิ่มแตะ 100 ล้านตัน และเปิดช่องบริษัพลังงานต่างชาติเข้ามาร่วมทุนได้
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า แนวโน้มความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ทำให้ ปตท.แสวงหาโอกาสในการจัดหาแอลเอ็นจีเพิ่มเติม รวมไปถึงการเข้าไปร่วมลงทุนในแหล่งแอลเอ็นจีด้วย ซึ่งกาตาร์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ ปตท.สนใจ เพราะกาตาร์เป็นผู้ส่งออกแอลเอ็นจีรายใหญ่สุดของโลก ปัจจุบันส่งออกอยู่กว่า 70 ล้านตัน และมีแผนขยายกำลังผลิตแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 ล้านตัน
ดังนั้น ปตท.มองเห็นโอกาสที่จะเจรจาซื้อและร่วมทุน (Joint Venture : JV) ในกาตาร์อีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้นโยบายรัฐบาลกาตาร์เตรียมเปิดโอกาสให้บริษัทพลังงานต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนได้ ส่วน ปตท.จะได้เข้าร่วมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ คาดว่าจะยังไม่มีข้อสรุปหรือความชัดเจนในเร็วๆ นี้ และทางกาตาร์เองคงต้องใช้ระยะเวลาพิจารณานานพอสมควร
ส่วนสถานการณ์ราคาแอลเอ็นจีตลาดโลกขณะนี้ราคายังไม่สูงนัก ยังคงเป็นตลาดของผู้ซื้อ หากสามารถเข้าไปทำสัญญาซื้อขายระยะยาวไว้ก็เป็นโอกาสที่ดี แต่ถามว่าจำเป็นต้องซื้อกาตาร์แหล่งเดียวหรือไม่ ไม่จำเป็นเพราะมีแหล่งอื่นๆ ในภูมิภาคทั่วโลกให้พิจารณาโอกาสซื้อและร่วมลงทุนภายใต้เงื่อนไขที่ดีที่สุดได้ ซึ่ง ปตท.เองก็ศึกษาโอกาสในทุกแหล่งด้วย
ปตท.มีแผนก่อสร้างคลังรับแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้นจากจากปัจจุบันรองรับได้ 10 ล้านตันต่อปี เป็น 19 ล้านตันต่อปีคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 3-4 ปีข้างหน้า โดยปี 2561 ไทยนำเข้าแอลเอ็นจีประมาณ 5 ล้านตันต่อปี ส่วนปีนี้อยู่ระหว่างวางแผนงานโดยรอประเมินความต้องการใช้ไฟฟ้าอีกครั้ง