ประธาน “ส.อ.ท.” เผยกรณีการออก พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งส่งผลให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนไทยและต่างชาติจะปรับตัวดีขึ้น กระแสการเลื่อนเลือกตั้งจะจบลง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้าลดลง เหตุกังวลปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีการออก พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แล้ว โดยมีการเผยแพร่ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เวลา 10.30 น. วันนี้ (23 ม.ค.) นั้น เรื่องดังกล่าวส่งผลดีต่อประเทศและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศว่าจะมีความชัดเจนในการเลือกตั้งอย่างแน่นอนจากก่อนหน้าที่มีกระแสของการเลื่อนเลือกตั้ง
“สำหรับในแง่เศรษฐกิจจะเป็นเรื่องระยะสั้นที่เม็ดเงินในเรื่องของกิจกรรมทางการเมืองที่อาจจะกระจายไปสู่ท้องถิ่นมากขึ้น ส่วนการลงทุนนั้นมองในเรื่องระยะยาวมากกว่า เมื่อการเมืองชัดเจน ประกอบกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐส่งผลให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่องทั้งนักลงทุนจากญี่ปุ่น จีน และเร็วๆ นี้ฝรั่งเศสจะเข้ามาลงทุนในไทยด้วย” นายสุพันธุ์กล่าว
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนธันวาคม ปี 2561 พบว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 93.2 ปรับตัวลดลงจากระดับ 93.9 ในเดือนพฤศจิกายน 2561 เนื่องจากผู้ประกอบการเร่งผลิตสินค้าไปแล้วในเดือนพฤศจิกายน เพื่อชดเชยในเดือนธันวาคม 2561 ที่มีวันทำงานน้อยและมีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการมีความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเอสเอ็มอี
ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 105.9 ลดลงจากระดับ 107.4 ในเดือนพฤศจิกายน 2561 เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนของสงครามการค้าที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยให้ชะลอตัวลง ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อต้นทุนประกอบการในอนาคต
สำหรับข้อเสนอภาครัฐควรสนับสนุนการใช้สกุลเงินบาทเพื่อการค้าระหว่างประเทศกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างกัน และภาครัฐควรหามาตรการเยียวยารายการสินค้าที่เสียดุลการค้าอย่างมากกับประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา