ผู้จัดการรายวัน 360 - เมเจอร์ฯ ผุด 'แอพเอไอ' จับมือเอ็มเทล ฮ่องกง สนองคอหนังทั่วโลก ประเดิมเมืองไทยส่ง Super APP ดูดเงินแฟนหนังแบบเบ็ดเสร็จ ตั้งเป้าสิ้นปียอดขายตั๋วหนัง 7.8 ล้านใบ ใน 3 ปีรุกฆาตเป็นช่องทางหลักขายตั๋วหนัง 80% ของเมเจอร์รวม
นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมเจอร์ฯ มีแผนรุกธุรกิจ Mobile Marketing เต็มรูปแบบ โดยการร่วมทุนกับเอ็มเทล ฮ่องกง ในสัดส่วน 70-30 ในการสร้างแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันธุรกิจโรงภาพยนตร์ออกขายทั่วโลก โดยการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ ส่งผลให้เกิดเป็นแอปพลิเคชันสำหรับคนคนเดียว ซึ่งทั่วโลกมีแอปพลิเคชันประเภทนี้อยู่แต่ยังไม่เสถียรและมีความฉลาดเท่า โดย 6 เดือนหลังจากนี้น่าจะเริ่มทำตลาดต่างประเทศได้ โดยเริ่มจากเอเชียก่อน ขณะนี้เริ่มเจรจาแล้วใน 3-4 ประเทศ
ส่วนแผนการตลาดปี 2562 ของไทยนั้น บริษัทพร้อมจะรุกธุรกิจ Mobile Marketing เต็มรูปแบบตอบโจทย์ลูกค้ายุค 4.0 เช่นกัน ล่าสุดเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ Super APP ที่นำ AI มาใช้ ดีไซน์ให้เป็นแอปพลิเคชันสำหรับคนคนเดียว ซึ่งจะพัฒนาต่อเนื่องเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนซื้อตั๋วหนังที่ควรดูหลังดูภาคก่อนหน้าแล้ว การเลือกที่นั่งที่ดีที่สุด การแนะนำเพื่อนที่กำลังดูอยู่โรงเดียวกัน และอื่นๆ ที่ทำได้ในแอปฯ เดียว
จากเดิมมีแอปพลิเคชัน Major Movie Plus ที่มีผู้ใช้งานอยู่แล้ว 10 ล้านยูสเซอร์ ภายในเเดือน มี.ค. 62 จะย้ายผู้ใช้งานจากแอปฯ นี้ และแอปฯ เอ็มเจน มาเป็น Super APP ทั้งหมดให้เหลือเป็นแอปฯ เดียว และภายในสิ้นปีคาดว่าจะมียอดผู้ใช้งานเพิ่มอีก 5 ล้านยูสเซอร์ หรือทั้งปีนี้จะมีผู้ใช้งาน Super APP กว่า 15 ล้านคน
“การใช้งาน Super APP เป็นการเพิ่มโอกาสการขายทั้งในส่วนของตั๋ว อาหารเครื่องดื่ม รวมถึงส่วนอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือการดูหนังด้วย และในทางอ้อมเป็นการดึงช่องทางคีออสก์และบ็อกซ์ออฟฟิศมาอยู่บนแอปพลิเคชันนี้ ทำให้อนาคตขนาดบ็อกซ์ออฟฟิศจะเล็กลง คีออสก์เปิดใหม่จะน้อยลง จากปัจจุบันมีกว่า 500-600 จุดตามหน้าสาขาเมเจอร์”
นายนรุตม์กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้าว่าปีนี้ยอดขายตั๋วหนังจากทุกช่องทางจะเพิ่มขึ้น 10% หรือกว่า 39.4 ล้านใบ จากปีก่อนทำได้ 34 ล้านใบ โดยกว่า 20% มาจากช่องทางแอปพลิเคชันทั้งหมดคิดเป็น 7.8 ล้านใบ ซึ่งกว่า 75% มาจากช่องทางคีออสก์ 75% และบ็อกซ์ออฟฟิศ 5% จากเดิมปีก่อนช่องทางแอปพลิเคชันอยู่ที่ 10% ช่องทางคีออสก์ 71% และบ็อกซ์ออฟฟิศ 21% ซึ่งใน 3 ปีจากนี้ตั้งเป้ายอดขายหลักจะมาจากแอปพลิเคชันให้ได้ที่ 50-80%
