xs
xsm
sm
md
lg

“อาคม” ชี้ต่อสัญญาทางด่วนต้องรอบคอบ กก.กำกับฯ สั่ง กทพ.ตรวจสอบรายละเอียด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“อาคม” ชี้บอร์ด กทพ.และคณะ กก.กำกับสัญญาฯ ต้องพิจารณาแนวทางต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนอย่างรอบคอบ ระบุแต่ละสัญญามีอายุและกรอบเงื่อนไขไม่เหมือนกัน ซึ่งล่าสุด กก.กำกับฯ ยังไม่ได้พิจารณาแนวทางใดๆ ตามที่บอร์ด กทพ.มีมติยืดสัญญา 37 ปี สั่ง กทพ.ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง นัด 21 ม.ค. 62 ถกอีกรอบ

จากกรณีคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2561 อนุมัติแนวทางขยายสัมปทานทางด่วนให้ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ออกไปอีก 37 ปีเพื่อยุติข้อพิพาททั้งหมด และมูลค่าข้อพิพาทกว่า 1.37 แสนล้านบาท ซึ่งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทพ.และพนักงานได้คัดค้านมติดังกล่าว นั้น

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับทราบกรณีที่ประธานบอร์ด กทพ.และผู้ว่าฯ กทพ.ได้พูดคุยกับพนักงานและสหภาพฯ กทพ. ซึ่งตน และนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะที่กำกับดูแล กทพ.โดยตรง ได้พูดคุยกันบ้างแต่ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เนื่องจากประเด็นสัญญาสัมปทานนั้นมีคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.และมีคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการฯ เป็นผู้ดูแล ซึ่งเป็นคณะกรรมการตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 เป็นผู้ดูแลและมีอำนาจในการพิจารณา

โดยเรื่องนี้ผู้เกี่ยวข้องต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เท่าที่ทราบคือบอร์ดได้เจรจากับเอกชน และมีการประชุมบอร์ดแล้ว ขณะที่คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการฯ คงจะต้องดูว่าสัญญาสัมปทานมีกี่สัญญา แต่ละสัญญามีอายุสัมปทานเท่าไร ขณะที่ กทพ.ควรจะต้องทำอย่างไรที่ถูกต้องและเหมาะสม

“เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของบอร์ด กทพ. และยังมีคณะกรรมการกำกับพิจารณาอีกชั้นหนึ่ง มีขั้นตอนในการพิจารณา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเสนอเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคม ยืนยันจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ” นายอาคมกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 26 ธ.ค. 2561 นายกฤชเทพ สิมลี รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการระบบทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ครั้งที่ 3/2561 ได้มีการประชุม ในประเด็นที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ให้ กทพ.จ่ายเงินชดเชยแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด พร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงินประมาณ 4,200 ล้านบาท กรณีมีการสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต เป็นทางแข่งขัน โดยได้มีการรายงานความคืบหน้าการเจรจากับเอกชนในการปฏิบัติตามคำสั่งศาล ขณะที่ยังไม่มีการพิจารณาแนวทางการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนออกไปอีก 37 ปีเพื่อยุติข้อพิพาททั้งหมด โดยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทพ.ได้สังเกตการณ์ด้วย

นายกฤชเทพกล่าวว่า คณะกรรมการฯ เห็นว่าแนวทางที่ กทพ.ได้มีการหารือเพื่อการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกับผู้รับสัมปทาน กรณีชำระค่าเสียหาย ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด เป็นแนวทางที่ดี ทั้งนี้ ให้ กทพ.ไปตรวจสอบความละเอียดรอบคอบ โดยจะต้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2561 ที่ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการเจรจาต่อรองกับคู่พิพาท กรณีที่เกิดคดีความตามสัญญาอนุญาโตตุลาการหรือถูกฟ้องคดีต่อศาลปกครอง เป็นคดีเดียวหรือหลายคดีในประเด็นเดียวกันหรือเกี่ยวเนื่องกัน เพื่อบรรเทาความเสียหายของรัฐและให้เกิดความเป็นธรรมแก่ราษฎรได้

ด้าน นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า คณะกรรมการกำกับฯ ได้รับทราบความคืบหน้าแนวทางในการแก้ปัญหาข้อพิพาท แนวคิดการขยายอายุสัญญาที่ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) รับสัมปทานทุกโครงข่าย ทั้งทางด่วนขั้นที่ 2 รวมส่วน D ช่วงพระราม 9-ศรีนครินทร์ และทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด ออกไปอีก 37 ปี เพื่อลดภาระหนี้ข้อพิพาทที่มีต่อกันคิดเป็นมูลค่า 137,515.6 ล้านบาท ซึ่งบอร์ด กทพ.ได้เจรจากับเอกชนตามมติ ครม. แต่เพื่อความรอบคอบได้ให้ กทพ.กลับไปตรวจสอบความละเอียดแล้วนำมาเสนอความคืบหน้าต่อที่ประชุมคณะ กก.กำกับฯ ในวันที่ 21 ม.ค. 2562


กำลังโหลดความคิดเห็น