“พลังงานบริสุทธิ์” เลื่อนจ่ายไฟเชิงพาณิชย์โครงการหนุมาน 10 ขนาดกำลังผลิต 80 เมกะวัตต์เป็นกลาง ม.ค. 62 ส่วนอีก 4 โครงการย่อยจ่ายไฟตามกำหนดปลายปี 61 รวมทั้งแสวงหาโอกาสลงทุนพลังงานทดแทนทั้งใน และต่างประเทศโดยเฉพาะเวียดนาม
นางออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4 นี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังลม จ.ชัยภูมิ หรือโครงการหนุมานจะจ่ายไฟเข้าระบบจำนวน 4 โครงการย่อย คิดเป็นกำลังผลิต 180 เมกะวัตต์ คงเหลือโครงการหนุมาน 10 กำลังผลิตไฟฟ้า 80 เมกะวัตต์ที่ต้องเลื่อนการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ออกไปเป็นกลางเดือน ม.ค. 62 แทนเนื่องจากติดปัญหาสายส่งเล็กน้อย
หลังจากโครงการหนุมาน 10 จ่ายไฟเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็น 664 เมกะวัตต์
ส่งผลให้ปีนี้บริษัทมีผลดำเนินงานทั้งรายได้และกำไรสูงทุบสถิติสูงสุด เนื่องจากมีแผนการจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 404 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 278 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม 126 เมกะวัตต์ (ยังไม่รวมโครงการหนุมาน 260เมกะวัตต์)
นอกจากนี้ บริษัทยังแสวงหาโอกาสการลงทุนพลังงานทดแทนเพิ่มเติมทั้งในไทยและต่างประเทศ ล่าสุดบริษัทมีแผนลงทุนโครงการนำร่องโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์พ่วงแบตเตอรี่ ขนาดกำลังผลิตต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ ถ้าดำเนินการแล้วเสร็จจะมีโครงการใหม่เพิ่มเติม
สำหรับโครงการโรงงานแบตเตอรี่ขนาดรวม 50 กิกะวัตต์ชั่วโมง บนพื้นที่ 500 ไร่ มูลค่าการลงทุน 1 แสนล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างเฟสแรก ขนาด 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง เงินลงทุน 4 พันล้านบาท คาดว่าโรงงานเฟสแรกจะแล้วเสร็จได้ในปลายปี 2562 ส่วนเฟส 2 อีก 49 กิกะวัตต์ อยู่ระหว่างเจรจาร่วมกับพันธมิตรทั้งในไทยและต่างประเทศเพื่อร่วมลงทุนในระยะถัดไป
นางออมสินกล่าวว่า บริษัทวางงบลงทุนรวมสำหรับปี 2561-62 ไว้ราว 2.66 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในโครงการหนุมานจำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท, โครงการโรงงานแบตเตอรี่ เฟส 1 จำนวน 4 พันล้านบาท, โครงการผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล 2 พันล้านบาท, โครงการ EV Charging 800 ล้านบาท, การวิจัยและพัฒนา (R&D) 300 ล้านบาท และอื่นๆ อีก 1.5 พันล้านบาท โดยปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนไปแล้วราว 6 พันล้านบาท
ก่อนหน้านี้บริษัทได้ขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นเพื่อออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาทเพื่อมาชำระค่าอุปกรณ์เครื่องจักรเสาและกังหันในโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมหนุมานวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท แต่จากการศึกษาพบว่าการกู้เงินโปรเจกต์ไฟแนนซ์ได้รับดอกเบี้ยอัตราที่ต่ำกว่าการออกหุ้นกู้ ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะกู้เงินแบบโปรเจกต์ไฟแนนซ์แทน ส่วนการออกหุ้นกู้อาจเลือกมาชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในปี 2562 แทน