ผู้จัดการรายวัน 360 - 'เวทีมิสยูนิเวิร์สร้อนเป็นไฟ' TW ป้องสิทธิ์ พึ่งศาลฟ้องอดีตพาร์ตเนอร์และ 'พอลล่า' เจ้าแม่มิสยูนิเวิร์ส หลังโดนฉกสิทธิจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ไปแบบเจ็บปวด มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท ทำสะดุด 5 โปรเจกต์เวิลด์คลาสที่จะเกิดในปีหน้า
นายธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการ บริษัท ทีดับบลิว อินเวสเมนท์กรุ๊ป จำกัด อดีตผู้ถือสิทธิในการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 เปิดเผยว่า จากที่ต้องเสียสิทธิ์ให้หุ้นส่วนเดิมที่ฉวยโอกาสได้ถือสิทธิ์ในการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ไปนั้น สาเหตุเกิดจากการที่มีข้อตกลงร่วมกัน แต่ทางอดีตหุ้นส่วนไม่ทำตามเงื่อนไข พอเกิดปัญหาขึ้นก็ได้จัดเตรียมบริษัทใหม่ขึ้นมารองรับแทน ส่งผลให้บริษัทได้รับความเสียหาย
"ความร่วมมือกับทางอดีตหุ้นส่วนตั้งแต่ต้นนั้น เริ่มจากทางนั้นสนใจสิทธิ์ในการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ซึ่งตนรับหน้าที่เข้าไปเจรจากับทางกองประกวดฯ จนเกิดดีลนี้ขึ้น รวมถึงหน้าที่อื่นๆ ที่ฝ่ายตนรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาสิทธิ์ ทุน การวางแผนงานในการจัดประกวด รวมถึงการหาสปอนเซอร์ อย่างการบินไทยที่ได้มา ถือว่าทำได้เกิน 80% ซึ่งในความเป็นจริงเป็นการลงทุนร่วมกัน แต่ที่ผ่านมามีแต่ทางตนที่จ่ายฝ่ายเดียวจ่ายออกให้ไปก่อนรวมแล้วมากกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ทางอดีตหุ้นนอกจากเรื่องเงินทุนแล้วยังมีรับผิดชอบในส่วนของเวที และการจัดอีเวนต์ แต่เมื่อเกิดปัญหาในการจ่ายค่าลิขสิทธิ์กลับแยกตัวออกไป ซึ่งเรื่องนี้ทางกองประกวดฯ และอดีตหุ้นส่วนรับรู้ร่วมกันมาเป็นเดือน แต่สุดท้ายทางบริษัทกลับเสียสิทธิ์ไป"
ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท รวมถึงความเสียหายทางด้านชื่อเสียง เวลา ค่าใช้จ่ายกับคดีความที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท รวมถึงโปรเจกต์ต่อเนื่องที่จะทำต่ออีก 5 โปรเจกต์ในปีหน้าที่อาจจะต้องสะดุดไป ซึ่งแต่ละงานมีความยิ่งใหญ่มูลค่าระดับร้อยล้านบาท ที่หลังจากนี้จะต้องเลือกให้ดีกว่าที่ผ่านมา
นายธนวัตน์กล่าวต่อว่า บริษัทได้มอบหมายให้ที่ปรึกษากฎหมายเตรียมยื่นฟ้องอดีตหุ้นส่วนต่อศาลว่า บริษัทขอยืนยันเจตนารมณ์ตั้งแต่เบื้องต้นว่าเรามองเห็นประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการจัดงานครั้งสำคัญนี้ที่ครอบคลุมถึงการสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพทุกมิติของประเทศ เรามองถึงความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในด้านการลงทุน ความร่วมมือที่ยั่งยืนกับนานาประเทศทั่วโลก นอกเหนือจากการส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม และการสร้างความภูมิใจให้คนไทย
ทั้งนี้ บริษัทเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการดำเนินธุรกิจเพื่อการแสวงหากำไรโดยถือประโยชน์จากการที่เคยเป็นหุ้นส่วนกันและจากการที่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนกัน เป็นการละเมิดสิทธิของบริษัททำให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง เพราะหากหุ้นส่วนรายดังกล่าวทำตามหน้าที่และความรับผิดชอบแล้ว มั่นใจว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาสิทธิในการเป็นผู้จัดได้ต่อไป และเพื่อปกป้องสิทธิและเพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในการดำเนินธุรกิจต่อไปจึงปรึกษากับที่ปรึกษากฎหมาย และเห็นว่ามีหลายประเด็นที่จะดำเนินการทางกฎหมายได้ จึงได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายรวบรวมข้อมูลและหลักฐานเพื่อเตรียมการฟ้องคดีต่ออดีตหุ้นส่วน
“การพึ่งพาศาลครั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจทางกฎหมายว่าจะสามารถฟ้องฝ่ายใดได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นอดีตหุ้นส่วน รวมถึงกองประกวดฯ ด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นการรวบรวมเอกสาร พร้อมเมื่อไหร่สามารถยื่นฟ้องทันที ไม่ต้องดูว่าเป็นช่วงเวลาที่จะจัดประกวดอยู่หรือไม่ อาจจะเห็นก่อนหรือหลังการประกวดก็ได้ ซึ่งการพึ่งพากระบวนการยุติธรรมครั้งนี้เพื่อให้ช่วยคุ้มครองภาคธุรกิจให้สามารถทำงานอยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ไม่ถูกคดโกงจากการละเมิดข้อตกลงทางธุรกิจ และได้นำความเสียหายอย่างมากแก่บริษัท” นายธนวัตน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางด้านอดีตหุ้นส่วน คือ 'ตี๋ แมทชิ่ง' สมชาย ชีวสุทธานนท์ ที่ร่วมกับสองเพื่อนสนิทได้ก่อตั้งบริษัทชื่อ ทีพีเอ็น TPN เพื่อร่วมทำงานสานต่อจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส Miss Universe 2018 ที่ไทย โดยการรับลูกแผนงานต่อจากที่ TW วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสปอนเซอร์ แผนการเดินสายเก็บตัว และช่วงเวลาการจัดประกวดฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง TPN ได้เปิดเผยถึงตัวเลขเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณมากกว่า 700 ล้านบาทในการจัดประกวดคครั้งนี้ และคาดว่าจะจัดประกวดรอบตัดสินที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี