“อุตตม” มอบนโยบาย “กนอ.” ยื่นมือออกนอกรั้วนิคมฯ จัดทำแผนงานสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้ชุมชนรอบนิคมฯ 450 แห่ง หรือ 1.85 แสนครัวเรือน ดึงโรงงานในนิคมฯ ร่วมพัฒนานำวัตถุดิบเหลือใช้ร่วมปั้นสินค้าจำหน่าย เร่งรัดผุดนิคมฯ หมุนเวียนทรัพยากรรับเทรนด์โลกสู่ ศก.หมุนเวียน “กนอ.” รับลูกจ่อตั้ง 6 ภูมิภาค
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้คณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (บอร์ด กนอ.) และผู้บริหารระดับสูง กนอ.เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ว่า กนอ.เป็นองค์กรสำคัญที่จะดำเนินยุทธศาสตร์ของรัฐบาลโดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ กนอ.ดำเนินภารกิจหลักสำคัญ คือ 1. พัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายควบคู่กับวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) 2. ดูแลสิ่งแวดล้อมในนิคมอุตสาหกรรมไม่ให้กระทบชุมชน 3. ให้ กนอ.สร้างความเข้มแข็งสู่ชุมชนโดยนำร่องรอบนิคมฯ ก่อนด้วยการจัดทำแผนงานดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งปัจจุบันพบว่ารอบนิคมฯ กนอ.มีชุมชน 450 แห่ง หรือคิดเป็น 1.85 แสนครัวเรือน
“ให้ กนอ.ไปคิดแผนงานมาว่าจะทำอย่างไร ที่ไม่เพียงแต่จะทำงานในรั้วดูแลแต่บริษัทผู้ประกอบการในนิคมฯ แต่จะต้องยื่นมือออกนอกรั้วนิคมฯ มาช่วยชุมชน เช่น ถ้ามีทรัพยากรในรั้วของนิคมฯ เช่น ของเหลือจากกระบวนการผลิตถ้าสามารถเชื่อมโยงมาสร้างสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนให้มีสินค้าจำหน่ายหรือสร้างรายได้ ซึ่งเรื่องนี้รัฐให้ความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน แต่ก่อนที่จะไปสู่ความมั่งคั่งก็ต้องสะสมทุน นั่นคือ ต้องมีอาชีพ มีการผลิตสินค้าทำรายได้อย่างสม่ำเสมอ” นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้ยังขอให้เร่งรัดแนวคิดการจัดตั้งนิคมฯ หมุนเวียนทรัพยากร (Resource Recovery Park) ซึ่ง กนอ.มีแนวคิดที่จะดำเนินการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วมาบริหารจัดการ หรือเป็นลักษณะตั้งเป็นศูนย์รวมและส่งต่อของเสียโดยจะร่วมมือกับเอกชน ซึ่งเห็นว่าแนวทางดังกล่าวจะสอดรับกับทิศทางของโลกและรัฐบาลก็มุ่งจะพัฒนาสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ขณะเดียวกัน ให้ กนอ.พิจารณาเร่งรัดจัดตั้งศูนย์ SMEs Industry Transformation Center หรือ SMEs-ITC สำหรับเอสเอ็มอีให้ครบ 13 แห่ง จากที่ขณะนี้พร้อมดำเนินงาน 10 แห่ง และให้ กนอ.พิจารณาจัดหาพื้นที่ในนิคมฯ ทั้งของ กนอ.และนิคมฯ ร่วมดำเนินการกับเอกชนทั่วประเทศจัดหาพื้นที่รองรับการลงทุนเอสเอ็มอีเป็นการเฉพาะ
“บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA ได้หารือที่จะพัฒนาเมืองเอสเอ็มอีเป็นนิคมอุตสาหกรรมโดยเฉพาะที่จะรองรับการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งแนวคิดนี้ กนอ.ควรจะไปหารือกับทุกส่วนที่จะทำลักษณะเดียวกันในนิคมฯ ต่างๆ ที่จะรองรับเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ส่วนร่าง พ.ร.บ.กนอ. ปี...จะเสนอ ครม.เร็วๆ นี้ คาดว่าจะประกาศใช้ได้ต้นปี 2562 ซึ่งจะเอื้อให้ กนอ.มีความคล่องตัวในการดำเนินการได้ โดยเฉพาะการเปิดให้ กนอ.สามารถลงทุนและพัฒนาโครงการต่างๆ ได้กว้างขวางมากขึ้น” นายอุตตมกล่าว
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าฯ กนอ. กล่าวว่า กนอ.มีแนวคิดที่จะจัดตั้ง นิคมฯ หมุนเวียนทรัพยากร จะมีพื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ โดยกำลังพิจารณาจัดตั้งใน 6 ภูมิภาค ซึ่งจะทำงานร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)
สำหรับความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 มูลค่า 5.54 หมื่นล้านบาทนั้น คาดว่าจะนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการประกาศร่าง TOR วันที่ 30 ต.ค.นี้ จากนั้นจึงจะประกาศเชิญชวนให้เอกชนมาลงทุนในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ ซึ่งอาจจะช้าไปกว่าแผนเล็กน้อยแต่ก็ยังอยู่ในกรอบแผนงานที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม หลัง TOR ประกาศแล้วคงจะได้ไปหารือกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อีกครั้งหนึ่ง