xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด” สั่ง “พาณิชย์” คุมเข้มราคาสินค้า หวั่นผู้ผลิตอ้างน้ำมันพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สมคิด” สั่งการ “พาณิชย์” คุมเข้มราคาสินค้า ป้องกันการฉกฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนหลังราคาน้ำมันพุ่ง พร้อมกำชับดูแลราคาสินค้าเกษตรใกล้ชิด หวังให้เกษตรกรขายสินค้าได้ราคาดีและเป็นธรรม “สนธิรัตน์” มอบกรมการค้าภายในวิเคราะห์ราคาดีเซลที่กระทบต่อต้นทุนสินค้า เผยยังได้นัดถกหน่วยงานพาณิชย์วางแผนดูแลสินค้าเกษตรตั้งแต่ภายในจนถึงส่งออก และนัดวิดีโอคอนเฟอเรนซ์พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเร่งดันเศรษฐกิจฐานราก

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและราคาสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในขณะนี้ที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเกรงว่าอาจทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้า ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น และทำให้ราคาสินค้าอาจต้องปรับขึ้นตามไปด้วย ส่วนสินค้าเกษตรต้องดูแลให้เกษตรกรขายสินค้าได้ในราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสม รวมทั้งได้สั่งการให้จัดประชุมพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกำชับให้ดูแลราคาสินค้าและราคาสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ด้วย

“ขณะนี้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พาณิชย์ต้องทำงานเชิงรุก ต้องทำแผนรับมือราคาสินค้าไว้ล่วงหน้า ต้องไม่ให้มีการฉวยโอกาส หรือลักลอบขึ้นราคาเพราะชาวบ้านจะเดือดร้อน และต้องรีบประชุมพาณิชย์จังหวัด ซึ่งนอกจากจะให้เข้มงวดดูแลราคาสินค้าแล้วยังต้องจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย และเศรษฐกิจ การค้า รวมถึงการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดด้วย เพื่อเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้” นายสมคิดกล่าว

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในทำการวิเคราะห์ผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศที่จะมีผลกระทบต่อต้นทุนราคาสินค้าแล้ว และยังได้ขอให้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้วย

ส่วนการดูแลราคาสินค้าเกษตร ในวันที่ 25 ต.ค. 2561 จะประชุมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร ทั้งกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อกำหนดแผนการทำงานเกี่ยวกับสินค้าเกษตรทั้งหมด ทั้งแผนงานด้านการตลาดในประเทศ ต่างประเทศ รวมถึงการเจรจาแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศต่างๆ เพื่อวางแผนบริหารจัดการสินค้าเกษตรอย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ วันที่ 26 ต.ค. 2561 จะประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เร่งรัดผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เดินหน้าได้อย่างเต็มที่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วย

“ผมจะกำชับให้เร่งรัดขับเคลื่อนงานของกระทรวงพาณิชย์ให้เดินหน้าให้ได้ เพราะพาณิชย์จังหวัดถือเป็นไม้เป็นมือสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ในส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่ต้องทำ ทั้งการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และดูแลสถานการณ์ราคาสินค้าไม่ให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ รวมถึงดูแลราคาสินค้าเกษตรให้เกษตรกรขายสินค้าได้ในราคาที่เหมาะสม และเป็นธรรม” นายสนธิรัตน์กล่าว

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้ทำการวิเคราะห์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มขึ้น และผลกระทบที่จะมีต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่าหากราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ไม่เกินลิตรละ 30 บาทจะทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น 0.0002-0.0085% โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบต่ำสุด คือ ถุงพลาสติกเพราะมีน้ำหนักการบรรทุกน้อย และใช้พื้นที่ในการขนส่งน้อย ส่วนสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ปูนซีเมนต์ เพราะมีน้ำหนักในการบรรทุกมาก และใช้พื้นที่ในการบรรทุกมาก

“ผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นไม่ได้หมายความว่าราคาสินค้าจะต้องปรับขึ้นตามไปด้วย เพราะวิเคราะห์แล้วพบว่าราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้นน้อยมาก และไม่มีนัยสำคัญทำให้ราคาขายสินค้าต้องปรับขึ้น โดยกรมฯ จะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาขายเอาเปรียบประชาชน หากประชาชนพบเห็นการเอาเอารัดเอาเปรียบก็สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบทันที ถ้าพบผิดจะดำเนินการตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายวิชัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น