xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” สั่งทูตพาณิชย์ปั๊มส่งออก ห้ามเกียร์ว่างช่วงก่อนเลือกตั้ง เผย 18 ต.ค.ชง “สมคิด” เคาะเป้าปี 62

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สนธิรัตน์” สั่งการทูตพาณิชย์ลุยหาตลาดส่งออก ห้ามเกียร์ว่างช่วงสุญญากาศทางการเมืองเพื่อไม่ให้ประเทศเสียโอกาสทางการค้า ก่อนรายงานแผนและเป้าหมายการส่งออกให้ “สมคิด” พิจารณา 18 ต.ค.นี้ เผยตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูงพร้อมอัดฉีดงบเพิ่ม ส่วนตลาดที่ชะลอตัวต้องวางแผนแก้ไข ชี้ต้องเร่งขยายตลาดสินค้าเกษตร ร้านอาหารไทย และช่วย SMEs ส่งออกให้ได้เพิ่มขึ้น

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานมอบนโยบายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ จาก 64 ประเทศทั่วโลก ว่า การจัดประชุมในครั้งนี้เพื่อประเมินวิกฤตและโอกาสทางการตลาดของไทยในพื้นที่ที่ทูตพาณิชย์รับผิดชอบดูแล พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย และให้จัดทำแผนการรับมือ รวมถึงแผนผลักดันการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันยอดส่งออกในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2561 และให้เร่งวางแผนการขับเคลื่อนการส่งออกของปี 2562 เพื่อรายงานและกำหนดเป้าหมายการส่งออกในการประชุมในวันที่ 18 ต.ค. 2561 ซึ่งมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

“ผมขอให้ทูตพาณิชย์ทำงานอย่างเต็มที่ แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยช่วงนี้จนถึงต้นเดือน ธ.ค. 2561 เป็นช่วง 90 วันที่ปลอดการเมือง ถึง 13 ธ.ค. 2561 หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง คาดว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 และกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้น่าจะเป็นช่วงเดือน เม.ย. 2562 เมื่อนับรวมเวลาแล้วก็คิดเป็นครึ่งปีของปีงบประมาณ 2562 ในระหว่างนี้ขอให้ทูตพาณิชย์ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียโอกาสทางการค้า” นายสนธิรัตน์กล่าว

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ได้ขอให้ น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เร่งจัดเกรดสำนักงานทูตพาณิชย์ในแต่ละตลาด โดยตลาดไหนมีทูตพาณิชย์เป็นดาวรุ่ง ขับเคลื่อนส่งออกได้ดี จะสนับสนุนงบประมาณทำตลาดเพิ่มเติม มีเงินจากกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่พร้อมสนับสนุน ส่วนตลาดใดที่มีปัญหา ต้องหารือเป็นพิเศษว่าเกิดจากสถานการณ์ของตลาดหรือการส่งออกชะลอตัวเพราะอะไร และหากแก้ไขได้จะมีมาตรการพิเศษอะไรดำเนินการก็ให้เสนอมา

ส่วนแผนผลักดันการส่งออกปี 2562 ให้เน้นการขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าเกษตรเพื่อช่วยยกระดับราคาสินค้าเกษตรให้เกษตรกรไทย และเร่งผลักดันสินค้าบริการ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร โดยให้แต่ละประเทศเร่งสรุปจำนวนร้านค้าที่เป็นของคนไทย และประเภทร้านอาหารภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อนำไปกำหนดแผนที่จะผลักดันให้มีการจัดตั้งร้านอาหารไทยในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพราะหากมีจำนวนเพิ่มขึ้นก็จะช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารและวัตถุดิบ รวมถึงผักและผลไม้ไทย

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ประเด็นสุดท้ายที่จะมีการฝากคือมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายจิ๋ว (MSMEs) ที่จะต้องทำงานเชื่อมโยงกันมากขึ้น ระหว่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อช่วยผลักดันให้ SMEs ส่งออกได้เพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมา งานหรือกิจกรรมมีความซ้ำซ้อนกันเป็นจำนวนมาก แต่ผลประโยชน์ไม่ตกถึง SMEs ซึ่งได้เสนอนายกรัฐมนตรีปรับบทบาทของ สสว.แล้วให้เป็นหน่วยงานดูแลยุทธศาสตร์ภาพรวมของประเทศ และกำหนดทิศทางการพัฒนา SMEs


กำลังโหลดความคิดเห็น