“พพ.” ศึกษาพัฒนาโครงการโซลาร์ฯ ลอยน้ำในอ่างขนาดเล็ก 10 แห่งที่ พพ.ดูแล เล็งที่คีรีธานเหตุมีศักยภาพสูง คาดสรุปผลต้นปี 2562 พร้อมเล็งใช้งบกองทุนอนุรักษ์ฯ สนับสนุน มั่นใจช่วยบริหารต้นทุนค่าไฟให้ลดลงได้ พร้อมลุ้นบอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ เคาะงบ หวังหนุนโครงการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงานให้โรงพยาบาลรัฐเดินหน้าต่อ
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ. ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ พพ.อยู่ระหว่างการศึกษาศักยภาพการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดินแบบลอยน้ำ (โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ) ในอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนขนาดเล็กที่อยู่ในความดูแลของ พพ.ที่มีอยู่ประมาณ 10 แห่ง โดยคาดว่าจะสรุปความชัดเจนได้ต้นปี 2562 ว่าพื้นที่ใดจะมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 80-100 เมกะวัตต์
“หากผลศึกษาชัดเจนแล้ว พพ.จะเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลติดตั้งและก่อสร้างระบบต่อไป แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาในส่วนของงบประมาณการพัฒนาโครงการว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยอาจจะพิจารณาได้จากงบประมาณปกติ หรือของบสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในงบประมาณปี 2563 เพราะงบปี 2562 ไม่ทันแล้ว ซึ่งภาพรวมโครงการดังกล่าวจะช่วยบริหารต้นทุนค่าไฟให้ต่ำลงได้” นายประพนธ์กล่าว
ปัจจุบัน พพ.ได้พัฒนาโครงการพลังน้ำคีรีธาน จ.จันทบุรี ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 12 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นโครงการที่จะมีศักยภาพในการต่อยอดการพัฒนาโซลาร์ลอยน้ำได้เป็นอย่างดีอีกแห่งหนึ่งเพราะมีพื้นน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่จะติดตั้งได้ ขณะเดียวกันจะเป็นระบบผสมผสานระหว่างพลังงานน้ำกับโซลาร์ฯ หรือ Hybrid โดยคาดว่าจะต่อยอดการผลิตไฟเพิ่มได้อีกราว 10 เมกะวัตต์ แต่ทั้งนี้คงจะต้องรอผลศึกษาก่อน
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการพลังงานน้ำในอ่างขนาดเล็กนั้น ที่ผ่านมา พพ.ได้พัฒนาและมีการจำหน่ายไฟเข้าระบบการไฟฟ้าที่มีจุดประสงค์การพัฒนาในการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคที่เน้นการพัฒนาแหล่งน้ำให้เกษตรกรเป็นหลักส่วนไฟฟ้าเป็นเพียงผลพลอยได้ ประกอบกับการพัฒนาเป็นการนำเงินงบประมาณแผ่นดินมาพัฒนาหรือลงทุน ดังนั้นค่าไฟฟ้าภายใต้โครงการดังกล่าวจะมีราคาต่ำเฉลี่ยส่วนใหญ่จำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) อยู่ระดับ 1.09 บาทต่อหน่วย ดังนั้น หากมีการพัฒนาโครงการก็จะยึดหลักการค่าไฟดังกล่าวเช่นกันจนกว่าจะมีการเปลี่ยนนโยบาย
ส่วนความคืบหน้าการขออนุมัติงบสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์ปีงบประมาณ 2562 ที่ พพ.ยื่นขอสนับสนุนวงเงินประมาณ 7,000 ล้านบาทนั้นคงจะต้องรอความชัดเจนการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานว่าจะพิจารณาอย่างไร เนื่องจากยอมรับว่ามีผู้ยื่นขอไปจำนวนมากเมื่อเทียบกับวงเงินที่มีอยู่เพียง 10,448 ล้านบาท โดยหนึ่งในโครงการสำคัญที่ พพ.ยื่นเสนอไปคือการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในโรงพยาบาลรัฐซึ่งเป็นอาคารกลุ่มที่ใช้พลังงานสูง เนื่องจากเปิดใช้งาน 24 ชั่วโมง โดยจะสนับสนุนงบ 70% ของเงินลงทุน โรงพยาบาลสมทบ 30% ซึ่งขณะนี้ พพ.ได้ดำเนินการมาแล้ว 3 เฟส และงบปี 62 ที่ยื่นขอจะมีเพิ่มเติมอีกขณะนี้ไม่น้อยกว่า 50 แห่ง ทำให้การช่วยเหลือโรงพยาบาลรัฐครอบคลุมแล้วถึง 400 แห่ง