“พาณิชย์” ขึ้นเหนือรับฟังความคิดเห็นเข้าร่วมความตกลง CPTPP เผยส่วนใหญ่มองภาพบวกการเข้าร่วมจะช่วยขยายโอกาสการค้า การลงทุน แต่จะมีความท้าทายในเรื่องการแข่งขันที่สูงขึ้น และอาจต้องแก้กฎหมายบางเรื่อง เตรียมลุยต่อที่สงขลา กรุงเทพฯ และขอนแก่น
นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดการสัมมนารับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในหัวข้อ “โอกาสและความท้าทายของไทยในการเข้าร่วมความตกลงการค้าเสรี CPTPP” ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า เป็นการมารับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน และพะเยา ซึ่งปรากฏว่ามีผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ เกษตรกร และภาคประชาสังคมสนใจเข้าร่วมกว่า 250 คน
การลงพื้นที่ครั้งนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้นำวิทยากรที่เชี่ยวชาญจากภาควิชาการ ภาคเอกชน และภาครัฐ ร่วมเสวนานำเสนอข้อมูลภาพรวมความตกลง CPTPP และประเด็นปลีกย่อยต่างๆ ตั้งแต่การเปิดตลาดสินค้า บริการ การลงทุน ประเด็นเกษตร การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐกับเอกชน การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ประเด็นสุขภาพและสาธารณสุข เป็นต้น และยังได้เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความเห็น ซึ่งมีมุมมองทั้งในด้านประโยชน์และผลกระทบที่จะได้รับ
สำหรับผลการรับฟังความคิดเห็น ส่วนใหญ่เห็นว่าความตกลง CPTPP จะช่วยขยายโอกาสการค้าการลงทุนของไทย ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ต้นทุนภาคธุรกิจลดลง ผลักดันและสร้างแรงจูงใจในการพัฒนามูลค่าเพิ่มและขีดความสามารถในการแข่งขัน ขณะเดียวกัน มีความท้าทายที่เกิดขึ้น คือ ผู้ประกอบการไทยก็อาจจะเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น และไทยอาจจะต้องแก้ไขกฎหมายบางเรื่องเพื่อให้สอดคล้องกับความตกลง
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากนี้ กรมฯ มีกำหนดจะจัดรับฟังความคิดเห็นอีก 3 ครั้ง ที่ จ.สงขลา วันที่ 13 ก.ย. 2561 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ที่กรุงเทพฯ วันที่ 19 ก.ย. 2561 ณ โรงแรมดุสิตธานี และที่ จ.ขอนแก่น วันที่ 26 ก.ย. 2561 ณ โรงแรมพูลแมน เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ครอบคลุมทั้งประเทศ และจะนำข้อมูลที่ได้มาศึกษา วิเคราะห์ผลดี ผลเสีย แนวทางการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ก่อนที่จะรวบรวมเสนอรัฐบาลพิจารณาต่อไป