xs
xsm
sm
md
lg

“ไฮไลฟ์ เน็ทเวิร์ค” รุกตลาด ตปท. ปลดล็อกขายตรงสู่โมเดลค้าปลีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศศิลักษณ์ เหตระกูล (ซ้าย) ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไฮไลฟ์ เน็ทเวิร์ค จำกัด
ผู้จัดการรายวัน 360 - “ไฮไลฟ์ เน็ทเวิร์ค” ปลดล็อกขายตรงสู่ค้าปลีกบุกต่างประเทศ ล่าสุดเปิดตัว HyBeauty Abalone Deluxe นำร่องพร้อมไทย ตั้งเป้ายอดขาย 1 ล้านกระปุก ดันรายได้รวมปีนี้ทะลุ 1,000 ล้านบาท

นางศศิลักษณ์ เหตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮไลฟ์ เน็ทเวิร์ค จำกัด บริษัทขายตรงสัญชาติไทย เปิดเผยว่า ไฮไลฟ์ เน็ตเวิร์คมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจต้องการที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งสมาชิก ผู้บริโภค และสังคม ด้วยหลักการ 4 ข้อ คือ 1. สินค้าต้องมีคุณภาพดี ของไม่ดีจะขายไม่ได้ สมาชิกก็จะลำบาก 2. ทำธุรกิจอย่างยุติธรรม และโปร่งใส 3. ไม่เอาเปรียบผู้อื่นในทุกกิจกรรมที่ทำ และที่สำคัญมากๆ คือ 4. เราจะไม่หยุดการพัฒนาคน เพราะเมื่อเราพัฒนาคนให้กลายเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพแล้ว เขาจะสามารถสร้างตัวเองได้ และเขาจะส่งต่อสิ่งดีๆ ไปสู่ผู้บริโภค และสังคมได้

ปี 2561 นี้บริษัทก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 กับการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “Pay Success Forward ส่งต่อความสุขและความสำเร็จ” สร้างเครือข่ายที่ไม่ใช่แค่ทำธุรกิจร่วมกัน แต่ต้องการเป็นครอบครัวเดียวกัน ที่ช่วยให้สมาชิกได้เรียนรู้ พัฒนา และก้าวไปสู่ความสำเร็จของชีวิต ล่าสุดใช้งบ 30 ล้านบาท เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "ไฮบิวตี้ อบาโลน ดีลักซ์" เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคน โดยไม่จำกัดเพศ อายุ สีผิว หรือเชื้อชาติ ครอบคลุมปัญหาผิวของคนทุกกลุ่ม มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี
ศศิลักษณ์ เหตระกูล (ซ้าย) ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไฮไลฟ์ เน็ทเวิร์ค จำกัด
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทจะใช้ ไฮบิวตี้ อบาโลน ดีลักซ์ เป็นผลิตภัณฑ์หลักในการบุกตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มต้นจากประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ตามด้วยยุโรป เช่น รัสเซีย และอีกหลายประเทศ โดยใช้กลยุทธ์ปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจสู่ค้าปลีกเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการไม่ยอมรับสินค้าธุรกิจขายตรงในหลายประเทศ และใช้กลยุทธ์ร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพและฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ช่วยให้เจาะตลาดได้อย่างรวดเร็ว มั่นใจว่าปีแรกจะมียอดขาย 1 ล้านกระปุก แบ่งเป็นในประเทศ และต่างประเทศ 50% เท่าๆ กัน

“การบุกตลาดต่างประเทศในครั้งนี้ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของไฮไลฟ์ฯ เพื่อจะสร้างโอกาสในการเติบโตที่มากขึ้นให้กับธุรกิจ รวมไปถึงนักธุรกิจของไฮไลฟ์ฯ ด้วย ในตอนนี้ประเทศที่เราเข้าไปยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเข้าสู่ตลาด และยังมีพาร์ตเนอร์ต่างชาติอีกหลายประเทศที่เห็นถึงศักยภาพของไฮไลฟ์ฯ และสนใจร่วมงานติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามีการพิจารณาปัจจัยหลายอย่างเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ธุรกิจ โดยสินค้าที่มุ่งต่างประเทศจะเป็นหมวดสกินแคร์เป็นหลัก”

ส่วนตลาดไทยยังจะคงพัฒนาเพื่อให้สมาชิกไฮไลฟ์มีชีวิตที่ดีขึ้น และประสบความสำเร็จไปด้วยกัน และหากนักธุรกิจไฮไลฟ์มีความต้องการที่จะทำตลาดในต่างประเทศ เราก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยยังคงใช้ช่องทางการขายตรงผ่านเน็ตเวิร์ก การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ และทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และโอกาสในการขายให้สมาชิกสามารถปรับตัวได้ทันกับการขายตรงในยุคดิจิทัล มั่นใจว่าปีนี้บริษัทจะมีรายได้รวมกว่า 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศ 600-700 ล้านบาท โตขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% และตลาดต่างประเทศ 300 ล้านบาท

ปัจจุบันไฮไลฟ์แบ่งสินค้าออกเป็น 4 กลุ่ม คือ ผลิตภัณฑ์ความงาม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์การเกษตร ขณะที่สมาชิกนักธุรกิจไฮไลฟ์มีอยู่กว่า 200,000 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีอิสระในการทำงานและใช้ชีวิตแบบเวิร์กไลฟ์บาลานซ์


กำลังโหลดความคิดเห็น