“สมคิด” ประกาศดันไทยเข้าร่วม CPTPP หรือ TPP เดิม หลัง 11 ชาติตกลงเดินหน้าต่อแม้ไร้เงาสหรัฐฯ สั่ง “พาณิชย์” ตั้งคณะทำงานหารือภาครัฐ เอกชนเตรียมพร้อม เผยยังได้ขอให้ทบทวนข้อตกลง JTEPA เน้นสิ่งที่ไทยต้องการ ติดตามสงครามการค้าและหาทางช่วยผู้ประกอบการ ส่วนการดูแลค่าครองชีพ แนะเพิ่มสินค้าราคาถูกเข้าร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ วานนี้ (29 มี.ค.) ว่า ได้มอบนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์เตรียมการเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) หรือ TPP เดิม หลังจากที่สมาชิก 11 ประเทศได้ลงนามความตกลง และคาดว่าจะมีผลบังคับหลังจากมีสมาชิก 6 ประเทศได้ให้สัตยาบัน โดยขอให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ตั้งคณะทำงานประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อม เพราะตอนนี้การเข้าร่วมเงื่อนไขหลายๆ อย่างผ่อนปรนลงแล้ว และไม่ได้บังคับ ทำให้การเข้าร่วมจะส่งผลดีต่อไทย
“เราต้องการเข้าร่วมแน่นอน ตอนนี้ก็ต้องเตรียมการ ขอให้ทำให้พร้อมก่อนผมไปญี่ปุ่น ผมจะไปหารืออย่างจริงจัง เพราะเราแสดงท่าทีมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็น TPP ที่เราต้องการเข้าร่วม แต่ตอนนั้นช้า ตอนนี้เราขอจองพื้นที่ตั้งแต่ต้นๆ และยืนยันจะเข้าร่วม แม้ว่าไม่มีสหรัฐฯ” นายสมคิดกล่าว
พร้อมกันนี้ ได้ขอให้เตรียมการเรื่องการเจรจาทบทวนความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) เพราะที่ผ่านมาข้อตกลงฉบับนี้ได้ช่วยทำให้การค้าขายไทยและญี่ปุ่นเติบโต การทบทวนข้อตกลงก็ต้องมีประเด็นใหม่ที่ไทยต้องการ เช่น อยากจะเปิดตลาดอะไร ต้องการความร่วมมืออะไรจากญี่ปุ่น ซึ่งต้องมีรายละเอียดให้ชัดเจน
ส่วนสงครามการค้าที่ขอให้ติดตามใกล้ชิด เพราะหากจีนถูกสหรัฐฯ กีดกัน สินค้าของไทยก็จะโดนหางเลขไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้รับผลกระทบ เพราะไทยยังมีทางออก สามารถส่งสินค้าไปขายที่อื่นได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะต้องเตรียมตัวและหารือกับผู้ประกอบการเป็นการล่วงหน้า
นอกจากนี้ ขอให้ติดตามดูแลราคาสินค้าเกษตร อย่างปาล์มตอนนี้มีปัญหาด้านราคา เพราะผลผลิตมาก ขอให้ดูแลอย่าให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ต่ำกว่าทุน และต้องเร่งรัดส่งออก ผลักดันให้ทำไบโอดีเซลเพื่อระบายผลผลิต และต้องดูแลไม่ให้มีการลักลอบนำเข้า ส่วนข้าวโพด ราคาดีอยู่แล้ว ก็ขอให้ดูแลให้ดีต่อไป
สำหรับการดูแลค่าครองชีพ ขอให้เพิ่มจำนวนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งทราบว่ากำลังจะเพิ่มเป็น 4 หมื่นร้าน โดยขอให้ไปสำรวจว่าสินค้าตัวไหนขายดี หรือขายไม่ดี และให้เพิ่มรายการสินค้าใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการของผู้มีรายได้น้อย และดึงเอกชนให้เข้ามาร่วมมือในการผลิตสินค้าป้อนให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยเชิญชวนทุกค่ายให้เข้าร่วม แต่ราคาต้องเหมาะสม และต้องเปิดโอกาสให้สินค้าชุมชนได้มีโอกาสในการขายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐด้วย
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เคยศึกษาผลดีผลเสียการเข้าร่วม TPP ไว้แล้ว พบว่ามีประโยชน์ต่อไทย แต่ก็มีเงื่อนไขบางข้อที่กระทบ แต่หลังเปลี่ยนเป็น CPTPP ได้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขลง ทำให้ไทยมองเห็นประโยชน์มากขึ้น แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจน จะเชิญทุกฝ่ายมาหารือและรับฟังความเห็นก่อน ส่วนการทบทวน JTEPA จะเน้นการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับญี่ปุ่น เพราะเรื่องการลดภาษีไม่มีปัญหาแล้ว จึงต้องเน้นการเพิ่มความร่วมมือในด้านที่ไทยต้องการจากญี่ปุ่น เช่น เทคโนโลยี แต่ในส่วนของสินค้าในกลุ่มรถยนต์ 3000 ซีซีขึ้นไป ที่อาจจะมีปัญหาบ้าง และเป็นเรื่องที่ค้างมานาน ก็ต้องพิจารณาว่าจะถอยหรือไม่ เพื่อที่จะได้อย่างอื่นจากญี่ปุ่นเข้ามา