xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ดันใช้ FTA ส่งออกผลไม้ หนุนไทยเป็นมหานครผลไม้เมืองร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ” เตรียมชี้ช่องผู้ประกอบการไทยใช้ FTA เพิ่มยอดส่งออก หวังหนุนนโยบายดันไทยมหานครด้านผลไม้เมืองร้อนของโลก เผยผลการใช้สิทธิ FTA ส่งออก พบอาเซียนมาเป็นเบอร์หนึ่ง ตามด้วยจีน ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะใช้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ผลไม้ของรัฐบาล ที่ตั้งเป้าให้ไทยเป็นมหานครด้านผลไม้เมืองร้อนของโลก โดยจะเร่งส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการผลไม้ของไทยใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรี เพื่อเพิ่มยอดการส่งออกผลไม้เมืองร้อนไปยังประเทศคู่เจรจา FTA ให้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด ลำไย และมะม่วง ที่ถือเป็นผลไม้สำคัญของไทยที่ต่างชาตินิยมบริโภค

ทั้งนี้ กรมฯ มั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้มีการเพิ่มยอดการส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยมีแผนที่จะเข้าไปส่งเสริมและแนะนำช่องทางการใช้ประโยชน์จาก FTA ให้กับผู้ประกอบการไทย ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการเข้าไปช่วยพัฒนาการเพาะปลูก การผลิต เพื่อให้มีคุณภาพมาตรฐาน และยังได้ช่วยพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การขนส่ง เพิ่มช่องทางค้าขายผ่านออนไลน์ ซึ่งมั่นใจว่าไทยจะเพิ่มยอดการส่งออกผลไม้ได้เพิ่มขึ้น

โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา ไทยเป็นผู้ส่งออกผลไม้และผลไม้แปรรูปอันดับที่ 10 ของโลก มีมูลค่าการส่งออกกว่า 4,600 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นคู่ค้าที่มี FTA กับไทย

นางอรมนกล่าวว่า ตลาดอาเซียนที่เป็นตลาดส่งออกผลไม้อันดับหนึ่งของไทย ได้มีการลดภาษีศุลกากรผลไม้และผลไม้แปรรูปภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2553 ทำให้มูลค่าส่งออกผลไม้ไทยไปอาเซียนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปี 2560 ส่งออกมูลค่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 643% จากปี 2552 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ภาษียังไม่ 0% และคิดเป็น 30.7% ของการส่งออกผลไม้ไปยังตลาดโลก โดยผลไม้ที่ได้รับความนิยม คือ ลำไยสดและแห้ง ลำไยกระป๋อง ทุเรียนสด แห้งและแช่แข็ง มังคุด และมะม่วง และปี 2560 ลำไยสด มีมูลค่าส่งออกสูงถึง 440 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งออกไปเวียดนามและอินโดนีเซีย ทุเรียนสด ส่งออก 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งออกไปเวียดนาม และมาเลเซีย มังคุด 146 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งออกไปเวียดนามและลาว

ส่วนจีน เป็นตลาดส่งออกผลไม้และผลไม้แปรรูปอันดับที่ 3 ของไทย รองจากอาเซียน และสหรัฐฯ มีการยกเลิกภาษีทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2546 โดยปี 2560 ส่งออก 740 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 16% ของการส่งออกรวม เพิ่มขึ้น 1,650% เมื่อเทียบกับปี 2545 ซึ่งเป็นปีก่อนหน้าที่จีนยกเลิกภาษีศุลกากรให้แก่อาเซียน โดยสินค้าที่มีศักยภาพ ได้แก่ ทุเรียนสด ลำไยสด มังคุด ลำไยแห้ง ทุเรียนแช่แข็ง มะพร้าว และสับปะรดกระป๋อง และในปี 2560 ไทยส่งออกทุเรียนสดมูลค่าประมาณ 216 ล้านเหรียญสหรัฐ ลำไยสดมีมูลค่าส่งออกประมาณ 152 ล้านเหรียญสหรัฐ มังคุดมีมูลค่าส่งออกประมาณ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ และส่งออกสับปะรดกระป๋องรวมมูลค่าประมาณ 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับประเทศคู่ค้าอื่นที่ไทยมีความตกลงทางการค้าเสรีด้วย เช่น ไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) และอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2548 และปี 2553 มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 350% เมื่อเทียบกับปี 2547 และเกาหลีใต้ ส่งออกเพิ่มขึ้น 329% เมื่อเทียบกับปี 2552 ซึ่งเป็นปีก่อนหน้าที่ความตกลง AKFTA มีผลบังคับใช้ และเริ่มลดภาษีเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2553


กำลังโหลดความคิดเห็น