xs
xsm
sm
md
lg

ETDA จัดประชุมนานาชาติ “ครอบครัวปลอดภัยในยุคดิจิทัล” ครั้งแรกในอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สุรางคณา  วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ETDA จับมือมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดประชุมนานาชาติ “ครอบครัวปลอดภัยในยุคดิจิทัล” (Building a Safe Online Environment for Children) เป็นครั้งแรกในอาเซียน ระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2561 เทียบเชิญ Facebook-Google-3DU Play ระดับโลกร่วมเสวนา หวังเป็นเวทีเกิดมาตรการ หรือ Soft Law คุ้มครองเยาวชนจากโลกออนไลน์

นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า สพธอ. ได้ร่วมกับสถาบันวิชาการนโยบายกิจการสาธารณะกับธุรกิจและการกำกับดูแล (APaR) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยความร่วมมือของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดประชุมนานาชาติเรื่อง “ครอบครัวปลอดภัยในยุคดิจิทัล” (Building a Safe Online Environment for Children) ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในอาเซียน โดยได้รับเกียรติจาก ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิดงานพร้อมปาฐกถาพิเศษ โดยในการจัดประชุมนานาชาติครั้งนี้มีขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ห้อง Open Forum ชั้น 21 สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)

สำหรับการจัดประชุมนานาชาติในครั้งนี้ สพธอ. ในฐานะหน่วยงานรัฐ เห็นว่าเรื่องของเยาวชนเป็นกลุ่มที่สังคมต้องให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต แต่ด้วยยุคปัจจุบันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเราจะคุ้มครองเยาวชนจากสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่อยู่บนโลกออนไลน์ได้อย่างไร เช่น เนื้อหาที่มีความรุนแรง เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชน การประชุมในวันนี้จึงมีความสำคัญเนื่องจากเราจะได้รับฟังนโยบายและแนวปฏิบัติของต่างประเทศในเรื่องนี้ เพื่อนำมาประยุกต์เข้ากับประเทศไทยในการสร้างโลกอินเทอร์เน็ตให้ปลอดภัยแก่ผู้เยาว์ ต้องมีการสร้างมาตรการระวัง ป้องกันภัย และรับมือ ดังจะเห็นได้จากรายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยปี 2560 ของ สพธอ.
สุรางคณา  วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ผู้ศึกษาพบว่ากลุ่มเด็กและเยาวชนอายุน้อยกว่า 17 ปีมีการใช้อินเทอร์เน็ตในวันทำงานโดยเฉลี่ย 5.48 ชั่วโมงต่อวัน และในวันหยุดโดยเฉลี่ย 7.12 ชั่วโมงต่อวัน โดยกิจกรรมทางออนไลน์ที่เป็นอันดับ 1 คือ การใช้สื่อสังคมออนไลน์ประเภทต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมามีภัยคุกคามทางออนไลน์ที่เกิดแก่เด็กและเยาวชนในหลายรูปแบบ ทั้งการข่มขู่ การหลอกลวง การกลั่นแกล้งกันบนอินเทอร์เน็ต (Cyberbullying) การทำลามกอนาจารต่อเด็กและเยาวชน รวมทั้งการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ขาดความระมัดระวังและความตระหนักของเด็กและเยาวชนทำให้เกิดภัยคุกคามอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

งานประชุมนานาชาติครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องถึงภัยคุกคามออนไลน์ในยุคดิจิตอลที่เยาวชนสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา แต่เนื้อหาของสื่อบนอินเทอร์เน็ตบางอย่างอาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน จึงถูกนำไปแสวงหาประโยชน์ได้โดยง่าย ดังนั้น ภัยออนไลน์ต่อเยาวชนจึงเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจและเล็งเห็นถึงความเร่งด่วนในการออกมาตรการคุ้มครองเยาวชนจากภัยออนไลน์
สุรางคณา  วายุภาพ (ซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ สุธรรม อยู่ในธรรม (ขวา)
“ประเทศต่างๆ ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงกฎหมาย รวมทั้งมาตรการต่างๆ เพื่อให้การดูแลและคุ้มครองเด็ก และเยาวชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประเทศไทยได้มีการปรับปรุงกฎหมายอาญาเพื่อกำหนดโทษแก่การครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก ซึ่งครอบคลุมไปถึงสื่อทางออนไลน์ด้วย เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กตามมา การสร้างความตระหนักและรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้ลดความเหลื่อมล้ำต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งจะเป็นกลไกในการสนับสนุนให้เกิดมาตรการทางกฎหมายที่ครอบคลุมในรูปแบบของ Soft Law เช่น Best Practice หรือ Self Regulation ดังนั้น การมีเครื่องมือที่จะช่วยให้เกิดแนวทางปฏิบัติที่ดีในการใช้สื่อออนไลน์โดยไม่ละเมิดเด็กและเยาวชนจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก การจัดประชุมในครั้งนี้จึงได้เชิญผู้ร่วมเสวนาชั้นนำจากองค์กรและมหาวิทยาลัยระดับโลก เช่น International Institute of Communications (IIC), Facebook, Google, 3DU Play, University of Vienna, University of Hong Kong มาให้ความรู้และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย” นางสุรางคณากล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น