“แม็คกรุ๊ป” ลด “โปรฯ แรง-ความถี่” ฟื้นกำไร

ผู้จัดการรายวัน 360 - “แม็คกรุ๊ป” ลุยเพิ่มสาขาปีนี้อีก 30 แห่งในไทย และอีก 4 แห่งในต่างประเทศ สยายปีกหาตลาดใหม่เล็ง อินโดนีเซีย มาเลเซีย พร้อมปรับแผนตลาด ลดโปรโมชันแรงและลดความถี่หวังฟื้นผลกำไรเพิ่มขึ้น งัดระบบสมาชิก แม็คคลับ มาใช้

นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกาย แม็คยีนส์ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปีนี้ (2561) จะเปิดร้านอีก 30 สาขา จากปัจจุบันมี 900 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งกระจายในไฮเปอร์มาร์เกต เทส
โก้ โลตัส และบิ๊กซี 300 สาขา และในห้างสรรพสินค้า 600 จุดจำหน่าย

ส่วนตลาดต่างประเทศจะเปิดอีก 4 สาขา คือ ในพม่า 2 สาขา และอิหร่าน 2 สาขา และยังศึกษาตลาดใหม่ๆ เพื่อขยายตลาดเพิ่ม เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย โดยตั้งเป้าหมายยอดขายจากต่างประเทศ 100 ล้านบาทภายใน 3 ปีจากนี้

ด้านแผนการตลาดปีนี้จะลดงบประมาณตลาดด้านการจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าลงเหลือ 300 ล้านบาท จากที่ใช้ไป 400 ล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วถือว่าจำนวนครั้งที่จัดมีมากและถี่เกินไป ให้ลดสูงสุด 50-80% เช่น ซื้อ 1 แถม 1, ซื้อ 1 แถม 2 โดยจะลดเหลือ 1 ครั้งต่อไตรมาส และลดสูงสุด 30-40% เท่านั้น เพื่อปรับแผนหันมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น จัดคอนเสิร์ตและใช้สื่อออนไลน์เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้น เพราะปีที่แล้วกำไรลดลงไป 3-5% จากโปรโมชัน โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายอดขายโต 10%

ปีนี้จะใช้ระบบสมัครสมาชิกภายใต้โปรแกรม “แม็คคลับ” เป็นการเก็บข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าให้ตรงความต้องการของลูกค้า รวมทั้งสิทธิพิเศษตลอดปี เช่น ลุ้นรับสินค้าในร้านแม็คยีนส์ ฟรีทุกเดือนตลอดปี การนำคะแนนสะสมมาแลกเป็นส่วนลดเงินสด โดยเดือนธันวาคมปีที่แล้วเริ่มทดลองใช้แล้วพบว่าลูกกค้าตอบรับดี มีผู้มาใช้เฉลี่ย 20 คนต่อสาขาต่อวัน คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีฐานสมาชิก 50,000 คน มาจาก 4 กลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มครอบครัว, คนรุ่นใหม่ นักเรียนนักศึกษา, กลุ่มที่ชื่นชอบการขับขี่รถจักรยานยนต์ และกลุ่มพนักงานบริษัทที่ใส่ยีนส์ไปทำงาน

“ปีนี้เห็นสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแล้วจากผลพวงของเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ของภาครัฐ นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น กำลังซื้อฟื้นตัว จึงต้องปรับแผนการตลาดใหม่ จากเดิมปีที่แล้วที่เศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อลดลง ทำให้เราต้องทำโปรโมชันแรงๆ และมีความถี่เพื่อดึงลูกค้า แต่ปีนี้เราลดความถี่ลง ซึ่งปี 2559 มีรายได้รวม 4,400 ล้านบาท” นางสาวสุณีกล่าว