xs
xsm
sm
md
lg

FMCG รุกออนไลน์เซาท์อีสต์เอเชีย เหตุอีคอมเมิร์ซแซงโค้งโตทันใน 3 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - นีลเส็นเผยผลสำรวจ คาดปี 63 อีคอมเมิร์ซทั่วโลกมีมูลค่า 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โต 20% กระทบ FMCG ที่โตได้เพียง 4% ส่งผลชอปปิ้งออนไลน์คึกคัก เนสท์เล่-ยูนิลีเวอร์ จัดเต็มช่องทางขายออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทิศทางตลาดอีคอมเมิร์ซ จากหัวข้อ “Nielsen : What’s Next in Ecommerce 2017” โดยบริษัทนีลเส็น เผยว่า การที่ผู้คนใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้นไม่ได้แสดงถึงความต้องการต่อกลุ่มสินค้า FMCG หรือ online grocery ที่มากขึ้นแต่อย่างใด ความสัมพันธ์ระหว่างการซื้อของสดออนไลน์กับอัตราการใช้งานสมาร์ทโฟนนั้นเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาและเหตุผลของแต่ละตลาดก็ไม่เหมือนกัน

โดยพบว่าสมาร์ทโฟนและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตส่งผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการซื้อของสดออนไลน์เพียงแค่ 40% เท่านั้น และเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลกที่เข้าถึงสมาร์ทโฟนและชอปปิ้งออนไลน์ พบว่าการใช้งานของการซื้อของสดออนไลน์ในประเทศสิงคโปร์มีอัตราที่ต่ำกว่าในประเทศฝรั่งเศส ถึงแม้ว่างสิงคโปร์จะมีอัตราการใช้งานของสมาร์ทโฟนที่สูงกว่าประเทศฝรั่งเศสก็ตาม

เห็นได้จากการเปิดตัวบริการซื้อของสดออนไลน์ของห้างค้าปลีก อย่าง เทสโก้ ออนไลน์ ที่ประเทศอังกฤษในปี 2539 ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการจับจ่ายของคนทั้งประเทศ และในปัจจุบันผู้บริโภคชาวอังกฤษจึงคุ้นเคยกับการซื้อของสดออนไลน์ไปแล้ว แต่ขณะที่ประเทศสิงคโปร์ การไปห้างเพื่อซื้อสินค้ากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของชาวสิงคโปร์ เนื่องจากห้างสรรพสินค้าที่ประเทศสิงคโปร์มักตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกและมีผู้คนเดินผ่านตลอดเวลา เช่น ใกล้สถานีรถไฟ

“การซื้อสินค้าในห้างยังถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับการพักผ่อนอีกอย่างหนึ่ง และยังคงเป็นที่นิยมแม้ว่าอัตราการใช้งานของสมาร์ทโฟนจะสูงมากในประเทศสิงคโปร์ก็ตาม ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เหมือนกัน ดังนั้น การค้าปลีกของภูมิภาคนี้จึงจะโตตามอีคอมเมิร์ซ ไม่ใช่อัตราใช้งานสมาร์ทโฟน ซึ่งแตกต่างจากประเทศทางตะวันตก”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอีคอมเมิร์ซจะมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของยอดขายในอุตสาหกรรมการค้าปลีกทั่วโลกเพียง 10% แต่หลังจากที่คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซจะมีอัตราการเติบโตรวมกันถึง 20% (CAGR) ภายในปี 2563 พร้อมกลายเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงถึง 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซจะมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่ากลุ่มสินค้า FMCG ที่คาดการณ์ว่าจะโต 4% (CAGR) เท่านั้น

จากที่คาดการณ์นี้เชื่อว่าในอีก 4 ปีข้างหน้าขนาดของการค้าปลีกแบบอีคอมเมิร์ซ (ไม่รวมแฟชั่นและไอที) จะมีขนาดและมูลค่าเท่ากับตลาดกลุ่มสินค้า FMCG ทั่วโลกได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่พฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงไป และธุรกิจในกลุ่ม FMCG จะอยู่เฉยไม่ได้อีกแล้ว

ล่าสุดในกลุ่ม FMCG ได้เกิดการร่วมมือกันระหว่าง Danone กับ Lazada ทำให้เห็นว่ามีบริษัทกลุ่มสินค้า FMCG เห็นความสำคัญของช่องทางการขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น ในการเป็นกลยุทธ์ที่จะขยายธุรกิจมากขึ้น ซึ่งรวมถึงเนสท์เล่และยูนิลีเวอร์ที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ที่หันมาให้ความสำคัญต่อช่องทางขายออนไลน์มากขึ้นเช่นกัน

โดยเฉพาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือเซาท์อีสต์เอเชีย พบว่าผู้บริโภคในภูมิภาคนี้คุ้นเคยกับการซื้อของออนไลน์มากขึ้น โดยมีธุรกิจอย่าง Happy Fresh และ Honestbee หรือแม้กระทั่งซูเปอร์มาร์เกตไฮเทคอย่าง Hema Supermarket ของ Alibaba เข้ามาให้บริการ ยืนยันถึงความต้องการต่อการซื้อของสดออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นจากผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี


กำลังโหลดความคิดเห็น