xs
xsm
sm
md
lg

บางจากปิดซ่อมโรงกลั่นไตรมาส2/61 ฉุดการกลั่นปีหน้าหด1.02แสนบาร์เรล/วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บางจากตั้งเป้าปีหน้าปริมาณการกลั่นลดเหลือ1.02 แสนบาร์เรล/วัน เหตุปิดซ่อมโรงกลั่นไตรมาส2/61 ส่วนค่าการกลั่นคาดทรงตัวใกล้เคียงปีนี้6-7เหรียญ/บาร์เรล

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)(BCP) เปิดเผยแผนการดำเนินธุรกิจในปี2561ว่า ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าหมายปริมาณการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยที่ 1.02 แสนบาร์เรล/วัน ลดลงจากปีนี้ทีมีปริมาณการกลั่น 1.11 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันบางจากจะปิดซ่อมบำรุงในช่วงไตรมาส2/2561 เป็นเวลา 45วัน ทำให้กำลังการผลิตหายไปในช่วงนั้น

ส่วนแนวโน้มค่าการกลั่น(GRM)ในปีหน้าคาดว่าจะทรงตัวใกล้เคียงปีนี้ที่ 6-7เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 60-65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน(Shale Oil)มีแนวโน้มลดลง

สำหรับงบลงทุนในปี2561 บริษัทตั้งงบลงทุนราว 2-3 หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ในธุรกิจโรงกลั่นที่จะมีการปิดซ่อมบำรุง ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและNon oil รวมทั้งลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าสีเขียว

วันนี้ (29 พ.ย.)บริษัท บางจากฯ ได้ร่วมกับกรุงเทพธุรกิจ จัดเวทีเสวนา “วิกฤติ 2 องศา วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติสังคม” การแบ่งปันประสบการณ์ มุมมองและวิสัยทัศน์ในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยมีวิทยากรที่เชียวชาญมาร่วมเสวนาด้วย ดังนี้ นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นายยุทธนา นรภูมิพิภัชน์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางประเสริฐสุข จามรมาน ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) นายโจน
จันใด ผู้ก่อตั้ง ศูนย์พันพรรณ ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเองและศูนย์เก็บเมล็ดพันธุ์พื้นฐาน และนางสาวเขมนิจ จามิกรณ์ นักแสดง พิธีกร และเกษตรกรรุ่นใหม่

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งพัฒนาสู่ความยั่งยืนในทุกๆ ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม แต่ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศน์ สิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงต่อเนื่องมาถึงการดำรงชีวิต ในสังคมของมนุษย์ เช่น การเพาะปลูก ความมั่นคงทางอาหาร พฤติกรรมการบริโภค การเกิดโรคระบาดทั้งในมนุษย์และสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

จากปัญหาดังกล่าว เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและหวังผลสัมฤทธิ์ให้เกิดขึ้น เพื่อเยียวยาปัญหาด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศา

“ถ้าเรายังมุ่งเฉพาะพัฒนาเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมให้เติบโตเพียงอย่างเดียว โดยละเลยการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ เศรษฐกิจและสังคมในที่สุด และนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เราต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นในรอบๆ ตัวเรา ทั้งภัยพิบัติและโรคภัยต่างๆ ที่ทำให้สูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และเงินทองเป็นจำนวนมหาศาลในแต่ละปี” นายชัยวัฒน์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น